ชื่อเรื่อง | The Matrix |
เรตติ้ง | 8.7 |
นักแสดง | Keanu Reeves,Carrie-Anne Moss,Laurence Fishburne |
จำนวนตอน | 3 ภาค |
รีวิวหนัง The Matrix Netflix
รีวิวหนัง The Matrix Netflix ภาพยนตร์ Action Scifi ที่พลิกประวัติศาสตร์ในวงการภาพยนตร์ ในอดีตนั้นการที่จะทำภาพยนตร์ออกมาสักหนึ่งเรื่องนั้นไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อยเนื่องจากในอดีตมีข้อจํากัดเกี่ยวกับเทคโนโลยีและรูปแบบการถ่ายทำมากมายโดยเฉพาะในยุค 90 ที่ถึงแม้ว่าจะมีเทคนิคการถ่ายทำที่พัฒนามากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามการจะสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงให้เกิดขึ้นได้นั้นไม่ได้สามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกอย่างง่ายดายเหมือนกันในปัจจุบันการที่มีข้อ จำกัด ด้านเทคนิคเยอะทำให้ในอดีต
ภาพยนตร์ที่เราจะได้รับชมส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นภาพยนตร์แนวเดิม ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรต่างไปจากปกติอย่างเช่นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้สยองขวัญระทึกขวัญภาพยนตร์แนวไซไฟหรือภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ก้าวหน้านั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยในยุคนั้นมีภาพยนตร์อยู่หนึ่งเรื่องที่มีความกล้าหาญจนกลายมาเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นไซไฟที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง The Matrix เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในเดือนมีนาคม 1999 เป็นยุคที่มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกมากยิ่งขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้เอฟเฟคแบบทำมือมากกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปมากถึง 463 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐโดยมีทุนสร้างเพียงค่า 63 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ความสำเร็จแบบถล่มทลายไม่ได้ชี้ชัดด้วยจำนวนรายได้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงฉากที่เราหลายคนจดจำนั่นก็คือฉากหยุดลูกกระสุนแม้ว่าหลายฉากหลายตอนในภาพยนตร์เรื่องนี้หากย้อนกลับไปรับชมแล้วก็คงจะรู้สึกว่ามันแปลก แต่ถ้าเทียบกับการรับชมในยุคนั้นแล้วต้องบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากหลังจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้มีการสร้างภาคต่อออกมาหลายต่อหลายครั้งโดยภาคที่ 4 ซึ่งเป็นภาคปัจจุบันจะมีการออกฉายในปี 2560 นี้วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาย้อนรอยความหลังภาพยนตร์เรื่องนี้กันว่ามันเป็นอย่างไรบ้างเพื่อเตรียมตัวรับชมภาคใหม่ของภาพยนตร์ในตำนาน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง The Matrix
The Matrix เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวในโลกอนาคตที่แสนไกลมนุษย์ต้องทำสงคราม แต่สงครามในครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะมนุษย์ไม่ได้รบกับมนุษย์ด้วยกันเองอีกแล้วมนุษย์ทุกคนต่างต้องร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้กับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ระหว่างการสู้รบนั้นมนุษย์สามารถทำลายแหล่งพลังงานของหุ่นยนต์ AI ได้สำเร็จนั่นก็คือการทำให้ท้องฟ้ามืดจนหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ แต่แล้วหุ่นยนต์เหล่านี้กลับสามารถหาแหล่งพลังงานใหม่มาทดแทนได้ซึ่งไม่ใช่อะไร แต่เป็นร่างกายของมนุษย์นั่นเองแหล่งพลังงานใหม่ของพวกมันทำให้มนุษย์ต้องเผชิญกับอันตรายมากยิ่งขึ้นไปอีก
และมันก็ทำให้มนุษย์ต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้ในที่สุดมนุษย์เราถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาในแคปซูลเพียงเพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับหุ่นยนต์เหล่านี้เท่านั้นพวกมันได้สร้างโลกขึ้นมาเรียกว่า The Matrix ให้มนุษย์หลับหลายอยู่ภายใต้การควบคุมของเหล่าหุ่นยนต์โลกที่พวกมันจำลองขึ้นมา แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผนของพวกมันเมื่อมอร์เฟียสและทรินิตี้ได้ค้นพบข้อมูลว่าอาจมีชายคนหนึ่งที่ช่วยปลดปล่อยทุกคนออกจากโลกจำลองที่ผิดเพี้ยนนี้ได้
ชายคนนั้นมีชื่อจริงว่าโทมัสแอนเดอร์สันภายนอกนั้นเขาดูเหมือนโปรแกรมเมอร์ธรรมดาทั่วไปถ้าเขามีชีวิตอีกด้านที่ไม่มีใครรู้นั้นก็คือด้านที่เขาเป็นแฮกเกอร์ในชื่อนีโอเขาเข้าใจว่าตัวเองนั้นเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นมากกว่านั้นเขาคือกุญแจสำคัญที่มอร์เฟียสและทรินิตี้กำลังตามหาหลังจากที่มีโอต้องตกที่นั่งลำบากเขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากทั้งสองคนนี้และทำให้เขานั้นกลายเป็นผู้นำที่จะทำให้มนุษยชาติได้ปลดแอกตัวเองจากเหล่าหุ่นยนต์ AI ให้สําเร็จ
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Matrix
The Matrix เป็นภาพยนตร์แนว Action Scifi แบบคลาสสิคตามสไตล์ยุค 90 แน่นอนว่าด้วยความที่มันสร้างขึ้นมาในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่สามารถสร้างงานคอมพิวเตอร์กราฟิกได้เทียบเท่ากับในปัจจุบันจนทำให้มีหลายอากต้องใช้งานเอฟเฟคทำมือถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่างานเอฟเฟคที่ทำมานั้นมีความสวยงามและสมจริงไม่น้อยเลยทีเดียวมันอาจจะไม่ได้ดูเลิศหรูอลังการเหมือนกับในปัจจุบัน แต่เป็นความคลาสสิคที่หาได้ยาก
แล้วในภาพยนตร์ยุคนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่มีฉากจดจำมากมายไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ใส่แว่นตาดำและชุดดำทั้งตัวจากการหลบกระสุนจากหยุดกระสุนในตำนานทุกอย่างล้วนแล้วแต่ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นตำนานที่ในปัจจุบันหลายคนก็ยังคงพูดถึงในส่วนของเรื่องราวนั้นก็เป็นไปด้วยความเข้มข้นสนุกสนานที่ทำให้เรานั้นลุ้นระทึกไปตลอดเวลาการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และ AI
จากการต่อสู้ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีและยังมีการผสมผสานศิลปะการต่อสู้แบบกังฟูเข้ามาด้วยซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจเป็นอย่างมากในยุค 90 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างมากและทำให้เราได้เห็นภาพยนตร์แนว Action Scifi มากมายในปัจจุบันมากยิ่งขึ้นดังนั้นหากคุณต้องการจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ภาคที่ 4 แล้วล่ะก็อย่าลืมไปย้อนดูแผ่นแปะภาค 1 จนถึงภาค 3 ก่อนเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม
ตัวอย่างหนัง The Matrix
รีวิว หนัง The Matrix บางส่วนจาก beartai
แม้ว่าจะเข้าฉายผ่านมาถึง 17 ปีแล้ว สำหรับ The Matrix ภาค 2 ที่ใช้ชื่อตอนว่า Reloaded (2003) ซึ่งเป็นภาคที่ทำรายได้สูงสุดของไตรภาค (รายรับรวมทั่วโลก 427 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญฯ) หนังก็ยังถูกพูดถึงอยู่เรื่อยมา ในฐานะที่เป็นหนังที่แหลมคมไปด้วยไอเดียสุดล้ำ แฝงปรัชญาชวนให้คนดูตีลังกาคิดหลายตลบ ซึ่งฉากหนึ่งที่เป็นฉากไคลแมกซ์ของเรื่องก็คือตอนที่ Neo ผู้ปลดปล่อยได้เผชิญหน้ากับ The Architect หรือสถาปนิกผู้ออกแบบ Matrix ฉากนี้มีนัยยะเปรียบเปรยถึงการที่พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระบุตร ได้พบกับพระบิดา
ในภาคสองที่ตามมาหลังความสำเร็จอย่างถล่มทลายของภาคแรก เข้าฉายปี 1999 สเกลงานสร้างก็ใหญ่โตขึ้น แฟนหนังได้เห็นฉากเมืองไซออน แหล่งรวมมนุษย์ที่ยังเหลืออยู่หลังโลกล่มสลาย เมื่อมนุษย์ส่วนใหญ่ตกเป็นทาสของเครื่องจักรกลในปี 2099 คนที่เหลือรอดมารวมกันที่นี่ ชาวเมืองมีทั้งที่เชื่อและยังไม่เชื่อในพลังของ Neo ว่าจะคุ้มครองชีวิตของพวกเขาได้ ขณะเดียวกันตัวร้ายอย่าง Agent Smith ก็ยังไม่ตายและก็อปปี้ตัวเองราวกับไวรัสตามราวี Neo กับพวกไม่เลิกรา หนังภาคต่อถูกแบ่งออกเป็นสองภาค และ The Matrix 3: Revolutions (2003) ก็เข้าฉายหลังจากภาคสอง 6 เดือน (ก่อนที่ภาค 4 จะเข้าฉายในเดือนพฤษภาคม ปี 2022 ให้หลังภาค 3 ถึง 19 ปี)
หนึ่งในปมปริศนาที่นำมาซึ่งการถกเถียงของผู้ชม ก็คือการออกแบบตัวละคร The Architect หรือสถาปนิกผู้สร้าง Matrix ที่ปรากฎตัวแถว ๆ ตอนเกือบจบ เขาปรากฎตัวอยู่ในห้องท่ามกลางจอทีวีมากมายเพื่อจะอธิบายจุดประสงค์การมีอยู่ของผู้ปลดปล่อยอย่าง Neo ที่เขาอ้างว่า เขาคือผู้สร้างทุกสิ่งใน Matrix ขึ้นมาร่วมทั้งผู้ปลดปล่อยอย่าง Neo ด้วย
เชื่อว่า ร้อยทั้งร้อยของคนที่ดูครั้งแรก “งง” กับสิ่งที่ The Architect พูดจนต้องมาตามหาอ่านคำอธิบาย ต่อจิ๊กซอว์เอาจากข้อมูลต่าง ๆ นอกเหนือจากหนังเช่น จากหนังแอนิเมชัน แต่เท่าที่คนดูพอจะเข้าใจได้จากในหนังก็คือเหนือ Neo และ Agent Smith ยังมีผู้มีอำนาจสูงสุดชนิด “เหนือฟ้ายังมีฟ้า”
ในแอนิเมชันภาคต้นเรื่องราวทั้งหมดอย่าง The Animatrix (2003) ได้มีการอธิบายจุดเริ่มต้นของหนังเอาไว้ว่า เมื่อเครื่องจักรพัฒนาตัวเองขึ้นมากหลังจากถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ สงครามระหว่างมนุษย์และจักรกลก็อุบัติและท้ายที่สุดฝ่ายหลังเป็นฝ่ายชนะ จากการสู้รบในสงครามทำให้โลกถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่านและไม่สามารถรับพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้อีกต่อไปมนุษย์ที่รอดจากเครื่องจักรก็ต้องหนีลงไปอยู่ใต้ดิน เครื่องจักรออกไล่ล่าจับมนุษย์ไปเลี้ยงในแคปซูลนับล้าน เพื่อดูดพลังงานไปใช้ และหลอกให้มนุษย์อยู่ในโลกเสมือน อย่าง Matrix ที่ Neo หลุดออกมาได้ในภาคแรก
เพื่อให้การทำงานของ Matrix หรือกรงขังมนุษย์ ไว้ในโลกเสมือน มีประสิทธิภาพ ฝั่งเครื่องจักรจึงได้ออกแบบ The Architect โปรแกรมที่จะคอยดูแลภาพรวมทุกความเป็นไปของโลกเสมือนให้เรียบร้อย หนังใช้สถาปนิกเป็นตัวแทนของผู้ควบคุมโปรแกรมและฐานข้อมูลทั้งหมด ขณะเดียวกันเครื่องจักรก็สร้าง The Oracle หรือเทพพยากรณ์ โปรแกรมที่เห็นอกเห็นใจมนุษย์ ถูกสร้างขึ้นมาเป็น “ขั้วตรงข้าม” เพื่อถ่วงดุลกับฝั่ง The Architect ซึ่งก็สร้างความคลางแคลงให้กับ Neo ว่าจะไว้ใจเทพพยาการณ์ (ที่ Morpheus เชื่อถือคำพยากรณ์ถึงการค้นพบ Neo ผู้ปลดปล่อยที่จะสามารถยุติสงครามครั้งนี้)
beartai