ชื่อเรื่อง | THE LAKE บึงกาฬ |
เรตติ้ง | 6.5 |
นักแสดง | ออม สุชาร์,ลําไย ไหทองคํา |
จำนวนตอน | 1.45 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง THE LAKE บึงกาฬ
รีวิวหนัง THE LAKE บึงกาฬ แม้ว่าเราจะสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์และความตั้งใจที่แน่วแน่มาก ๆ หรือ หนังสัตว์ประหลาดของไทย ๆ ออกมาสักเรื่อง ที่ยอมรับเลยว่าแพสชั่นตรงนี้ในหนังมีอยู่ล้นเปี่ยม เพียงแต่ว่าเมื่อได้ลองนำเอาองค์ประกอบต่าง ๆ มาประกอบรวมร่างเข้าด้วยกันทั้งหมดดูแล้วนั้น มันกลายเป็นปัง…ที่ไม่ให้ปังเพราะประทับใจ แต่เป็นปังที่เกือบจะพังครืน เพราะแทบจะทุกส่วนในหนังเรื่องนี้นั้น ยังไม่สามารถสื่อสารถึงคนดูได้ และสารของหนังยังค่อนข้างอ่อน..ถึงอ่อนมาก
เริ่มต้นที่บทหนังของ The Lake บึงกาฬ ที่แทบจะหาแก่นสารใด ๆ ไม่ได้เลย หนังไม่ได้มีการเกริ่นกล่าวนำเรื่องราวใด ๆ มาก่อนทั้งสิ้น แบบว่ามาถึงก็จับโยนสัตว์ประหลาดและฟาดฟันบุกเมืองแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทั้งนั้น แม้ว่าในฐานะคนดูก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้สร้างอยากจะสื่อสารแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่า..เอ๊ะ สรุปก็ไม่ได้ไปทางนั้น แล้วก็ไม่ได้ไปทางนี้ กลายเป็นบทหนังที่แกว่งเคว้งไปมา เหมือนไม่รู้จะไปทางไหน แม้กระทั่งช่วงท้ายในตอนบทสรุปก็เกือบจะหาทิศทางไม่เจอว่าจะไปจบลงตรงไหนดี
หนังไทยน่าดู 2022
อีกหนึ่งภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดไทยที่เป็นความหวังแต่ปังพินาศ ในช่วงเวลานี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยไม่น้อยเลยทีเดียว เราจะเห็นได้ชัดว่ามีภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ออกมาให้เราได้รับชมมากมายหรือแม้แต่ภาพยนตร์ที่มีการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปให้ได้รับชม อย่างเช่นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ SPORT STACKING ในภาพยนตร์เรื่องเร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ถล่มเมืองอย่าง LIO โคตรแย้ยักษ์ แต่ก็มีเพียงแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ และต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากภาพยนตร์ค่ายดังที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นอยู่แล้วอีกด้วย
ถึงอย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ออกมาให้เราได้รับชมอีกครั้งในชื่อเรื่องว่า THE LAKE บึงกาฬ ภาพยนตร์ที่จะเข้ามารันวงการสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ในประเทศไทยให้โกอินเตอร์ไปถึงระดับโลก แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ผู้คนต่างรอคอยรับชมเนื่องจากใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 5 ปีเลยทีเดียว มีการโฆษณาว่าใช้เงินทุนสร้างเป็นจำนวนกว่า 88 ล้านบาท นับเป็นโปรเจคใหญ่ในวงการภาพยนตร์ไทยที่ภาพรวมออกมาคงต้องเว้นวรรคเอาไว้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน
ต้องยอมรับว่าคนไทยนั้นมีฝีมือไม่แพ้ใครในโลก มีคนไทยจำนวนมากที่ไปอยู่ตามค่ายภาพยนต์ใหญ่ระดับ HOLLYWOOD ไม่เว้นแม้กระทั่งค่ายภาพยนตร์ที่เน้นงานสร้างด้วยงานคอมพิวเตอร์กราฟิกหรืองานอนิเมชั่น แต่กลับกลายเป็นว่าภาพยนตร์ในบ้านเรายังไม่สามารถสร้างความสำเร็จจากการทำภาพยนตร์ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิกได้ถึงขนาดนั้น และมันยังคงเป็นตราบาปในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยมาจนถึงในปัจจุบัน สำหรับใครที่สนใจเราจะพาทุกคนไปดูกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้างเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE LAKE บึงกาฬ
การตัดต่อหนังเรื่องนี้แทบจะยังไม่ราบเรียบและไม่คล้องจ้องกับเนื้อเท่าที่ควร หรือหากจะให้พูดแบบตรงไปตรงมาจริง ๆ จุดนี้คือหายนะของหนังหายนะเรื่องนี้จริง ๆ หนังต้องพังพินาศลงเพราะการลำดับเรื่องที่โดดไปมาบ่อยครั้ง ซ้ำรายกับมุมกล้องที่พยายามเร้าอารมณ์แต่กลับทำให้ปวดหัว อีกทั้งยังมีฉากซีนที่ไม่ต่อเนื่อง ตัดฉับไปมาขัดอารมณ์ผู้ชมบ่อยครั้ง แทนที่หนังจะดึงอารมณ์ขึงขังให้อยู่กับคนดู กลายเป็นความขบขันมาแทนที่ เพราะงานตัดต่อที่บางจุดไม่น่าจะปล่อยผ่านมาแบบนี้ได้
โดยเฉพาะในหนัง The Lake บึงกาฬ ที่บรรยากาศแวดล้อม (Environment) ส่วนใหญ่ในเรื่องนั้น จะต้องมีฉากฝนตกอยู่เกือบจะครึ่งเรื่อง เพราะสถานการณ์พายุเข้าในพื้นที่ แต่น่าขันที่เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วเวลาเดียวกัน แต่สลับกันไปมาแต่ละพื้นที่ ภาพตรงนั้นฝนกำลังตกหนัก แต่ตัดภาพมาตรงนี้กลับไม่มีฝน ทั้งที่โลเคชั่นตามท้องเรื่องนั้น ท้องที่ที่เกิดเหตุก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรถึงขนาดนี้สภาพอากาศจะแตกต่างกันได้เช่นนี้ ถึงจะเป็นเพียงจุดเล็กน้อยในหนัง แต่กลายเป็นสิ่งที่ขัดอารมรณ์ไปอย่างน่าเสียดายไม่น้อย
THE LAKE บึงกาฬเป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเมย์ เธอได้บังเอิญพบเข้ากับไข่รูปทรงปริศนาขนาดใหญ่ยักษ์ก่อนที่จะนำมันกลับมาที่บ้าน หลังจากที่พี่สาวของเธอเห็นก็โวยวายใหญ่เพราะไม่รู้ว่ามันคือไข่ของตัวอะไรกันแน่ เธอต้องการที่จะนำเอาไขปริศนาที่น้องสาวเก็บมาไปทิ้งหรืออย่างน้อยก็เอาไปไว้ที่เดิม แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว
ใครจะคาดคิดว่าไขขนาดใหญ่เพียงแค่ใบเดียวจะเปลี่ยนแปลงจังหวัดบึงกาฬทั้งจังหวัดให้กลายเป็นหายนะ ไข่ใบนั้นถูกฟักออกมาเป็นสัตว์ประหลาดไทจูขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถต่อสู้ได้ มันอาละวาดไปทั่วทั้งเมืองจนทำให้ต้องปิดจังหวัดบึงกาฬตัดขาดออกจากโลกภายนอก
ประชาชนภายในจังหวัดพยายามเอาชีวิตรอดอย่างถึงขีดสุดท่ามกลางความสิ้นหวังประชาชนภายในจังหวัดพยายามเอาชีวิตรอดอย่างถึงขีดสุดท่ามกลางความสิ้นหวังในช่วงเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว นอกจากนี้ในจังหวัดยังมีนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่ได้บังเอิญเข้ามาทำวิจัยภายในประเทศไทยและต้องเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าวจนจอยมาเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์อสูรละกายในประเทศไทยเช่นเดียวกัน สุดท้ายพวกเขาจะสามารถรับมือกับอสูรกายขนาดยักษ์ที่ไล่ฆ่าทุกสิ่งได้สำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์และนี่คือความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE LAKE บึงกาฬ
THE LAKE บึงกาฬ เป็นภาพยนตร์ทุนสร้างสูงของผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงที่อยู่ในวงการภาพยนตร์ไทยมาอย่างยาวนานนั่นก็คือลี ทองคำนั่นเอง เขาพยายามทุ่มเทอย่างหนักในทุกองค์ประกอบของภาพยนตร์นับตั้งแต่การสร้างแนวคิดมาจนถึงการเป็นผู้กำกับ ลงมือเขียนบทด้วยตนเอง และยังทำการตัดต่อภาพยนตร์ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวอีกต่างหาก น่าเสียดายที่เขาได้พิสูจน์แล้วว่าการทำทุกอย่างด้วยตัวเองนั้นดูเหมือนจะเกินกำลังของคนคนหนึ่งไปสักหน่อยสำหรับการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ขนาดนี้
ถึงอย่างไรก็ตามเรายังสามารถสัมผัสได้ถึงความหลงใหลและเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการสร้างสัตว์ประหลาดอสูรกายขนาดใหญ่ขึ้นมาในประเทศไทยบนฉากพื้นหลังบ้านเกิดของเขาอย่างจังหวัดบึงกาฬ แต่เมื่อทุกอย่างมาประกอบร่างรวมกันแล้วมันกลับออกมาไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ แม้จะมีส่วนที่ดีที่คอยพยุงภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่พังลงมาแบบยั่งยืนแต่มันก็ยังไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีในระดับมาตรฐานแต่อย่างใด