| ชื่อเรื่อง | THE GETAWAY KING |
| เรตติ้ง | 6.5 |
| นักแสดง | Dawid Ogrodnik,Masza Wagrocka |
| จำนวนตอน | 1.40 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง THE GETAWAY KING
รีวิวหนัง THE GETAWAY KING ภาพยนตร์ที่เล่าถึงสุดยอดโจรที่แหกคุกมาแล้วมากที่สุดในโลก
เมื่อมีผู้กระทำความผิดและได้รับการตัดสินโดยศาลสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วจุดหมายปลายทางของพวกเขาถ้าไม่เป็นความตายก็คือการใช้ชีวิตอย่างไร้อิสระในคุกในตาราง แม้ว่าหลายคนจะมองว่าการเสียภาษีเป็นจำนวนมากขังคนเลวไว้ในคุกเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำให้อยู่สุขสบายไปจนตายจะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่า แต่เพราะมนุษย์ตั้งอยู่บนจริยธรรมและศีลธรรมเราจึงไม่สามารถสังหารผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมดยกเว้นว่าจะมีความผิดสูงสุดจนได้รับโทษประหาร
ดังนั้นแน่นอนว่าผู้กระทำความผิดที่ถูกจำคุกจึงมีโอกาสที่จะได้ออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้งด้วย 2 กรณีด้วยกันนั่นก็คือการพ้นโทษออกมาอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องและการแหกคุกที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้นั่นเอง การจะเป็นสุดยอดโจรได้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถในการก่อเหตุอาชญากรรมแต่ยังรวมไปถึงความสามารถในการแหกคุกอีกด้วย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาแนะนำให้รู้จักกับภาพยนตร์เรื่อง THE GETAWAY KING ภาพยนตร์ที่เล่าถึงสุดยอดโจรคนหนึ่งที่มีความสามารถในการก่อเหตุอาชญากรรมและการแหกคุกระดับโลก ทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นโจรที่แหกคุกมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจเป็นมากกว่านั้นก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงอีกด้วย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าถือเป็นเรื่องน่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะเราไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่รอบข้างเราเป็นโจรที่มีความสามารถถึงขั้นแหกคุกออกมาได้มากที่สุดในโลกหรือไม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราไปดูกันว่าเขามีวิธีการอย่างไรบ้างในการแหกคุก และใช้ชีวิตหลังจากที่หลบหนีออกมาแล้วอย่างไร
หนัง netflix สนุกมาก
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE GETAWAY KING
THE GETAWAY KING เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของสุดยอดอาชญากรจากโปแลนด์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า ZDZISLAW NAJMRODZKI ช่วงเวลาที่เขาออกมาก่อความวุ่นวายนั้นจะอยู่ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 1980 ความสามารถในทางที่ผิดของเขาทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในโจรที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในขณะนั้นและมีความสามารถในการหลบหนีการจับกุมของตำรวจได้กว่า 29 ครั้งเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือการหลบหนีแต่ละครั้งก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นการกระโดดผ่านหน้าต่างศาลในตอนพิจารณาคดี การกระโดดลงจากรถไฟ หนีออกจากสำนักงานตำรวจวอร์ซอที่ไม่น่าเป็นไปได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังแหกคุกหลายต่อหลายครั้งจนได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งโจรที่แหกคุกมากที่สุดคนหนึ่งในโลก
เขาพร้อมกับโจรอีก 3 คนกำลังออกล่าเหยื่อในช่วงกลางคืนด้วยการปล้นร้านขายของหรูหราราคาแพง พวกเขาได้ปล้นของไปมูลค่าหลายๆถึง 70 สาขาเลยทีเดียว ตำรวจต้องการตัวขอเป็นอย่างมากถึงขั้นยอมตั้งค่าหัวจำนวนมหาศาล มีตำรวจหน้าใหม่ไฟแรงที่ย้ายมาในเมืองนี้และรับทำคดีดังกล่าว รวมไปถึงตำรวจมากประสบการณ์ที่พยายามจะจับโจรผู้นี้ให้สำเร็จให้ได้เป็นแอคชีฟเม้นท์ของชีวิต
ในขณะที่กำลังหลบหนีหัวซุกหัวซุนจะคดีปล้นเขาได้บังเอิญไปพบกับหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งที่เป็นพนักงานขายตั๋วหนัง เธอได้กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาอีกด้วย สุดท้ายแล้วชีวิตหลังจากนี้ของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE GETAWAY KING
THE GETAWAY KING เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของอาชญากรที่เก่งที่สุดในการแหกคุกและการหลบหนีการจับกุมบนโลกใบนี้ แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นการเล่าถึงเรื่องราวเหล่านี้แต่ก็ถือว่าสามารถทำออกมาได้น่าสนใจและสนุกสนานพอสมควรเลยทีเดียว มีบางช่วงที่รู้สึกน่าเบื่อจากโทนการเล่าที่ช้าจนเกินไปแต่ภาพรวมออกมาถือว่าสนุกสนานไม่น้อย เป็นภาพยนตร์ที่มีคุณภาพไม่น่าเกลียดเลย
ในส่วนของบทภาพยนตร์ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน เป็นการเล่าเรื่องราวยาวไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวาหรือชวนน่าตื่นเต้นถึงขนาดนั้นแม้ว่าจะเล่าถึงตัวอาชญากรที่กำลังหลบหนีตำรวจก็ตาม ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสามารถสร้างความน่าติดตามให้กับเราได้ ต้องไม่ลืมว่าแม้มันจะเป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรแต่ก็เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติเช่นเดียวกัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้มีจุดพีคอะไรขนาดนั้น แผนการเขียนบทในบางช่วงยังเวอร์วังอลังการจนเกินจริงไปหน่อยอีกต่างหาก แต่อย่างไรก็ตามถือว่ามีการผสมผสานความโรแมนติกเข้ามาได้เป็นอย่างดี
ด้านการแสดงนักแสดงทุกคนสามารถนำเสนอเรื่องราวออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะพระเอกที่สามารถแบกรับการเล่าเรื่องได้โดยไม่มีแผ่ว สามารถแสดงออกทั้งบุคลิก สีหน้า และถ้าทางออกมาได้ 2 กับเป็นอาชญากรจอมเจ้าเล่ห์ ในขณะที่นักแสดงคนอื่นก็สามารถสวมบทบาทออกมาได้อย่างสมจริงทั้งยังมีเสน่ห์อีกด้วย
แม้ว่าจะมีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของบทภาพยนตร์และการเล่าเรื่องราวที่ออกแนวชีวประวัติมากเกินไปหน่อยจนทำให้ส่วนของการหลบหนีหรือด้านการเป็นอาชญากรอาจจะไม่ได้สนุกสนานเท่าที่ควร แต่ในส่วนของงานภาพนั้นทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีความสวยงามสไตล์วินเทจ เทคนิคการถ่ายทำก็น่าสนใจ สามารถนำเสนอบรรยากาศและความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างลึกซึ้ง