ชื่อเรื่อง | The Dig Netflix |
เรตติ้ง | 7.1 |
นักแสดง | Carey Mulligan, Ralph Fiennes, Lily James |
จำนวนตอน | 1.52 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง The Dig Netflix
รีวิวหนัง The Dig Netflix ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ของการค้นพบอันยิ่งใหญ่ ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้เพื่อทำให้ปัจจุบันและอนาคตดียิ่งขึ้น ทำให้การค้นพบบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับโบราณคดีกลายเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่และเปลี่ยนประวัติศาสตร์ที่เราเคยรับรู้ไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่แน่นอนว่าการค้นพบอันยิ่งใหญ่นั้นมักมาพร้อมกับเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยอะไรมากมาย โดยเฉพาะความยากลำบากของทีมงานที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่างแต่พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันมันจนสำเร็จ
เหตุการณ์เหล่านั้นถูกถ่ายทอดออกมาในภาพยนตร์เรื่อง The Dig ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีเนื้อเรื่องหวือหวาที่สามารถสร้างความสนใจให้กับผู้คนเป็นจำนวนมากได้ในครั้งแรก แต่มันก็สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะของภาพยนตร์ออริจินัลเน็ตฟลิกซ์และไม่แน่ว่าอาจจะมีชื่อเข้าชิงรางวัลในปีนี้ก็เป็นได้
แต่ด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์แนวอิงประวัติศาสตร์ที่เล่าเรื่องราวความเป็นจริงที่เกิดขึ้นบนโลกของเรา แถมยังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการขุดค้นทางโบราณคดี แน่นอนว่าหากคุณเป็นคนที่ไม่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์หรือชีวประวัติ รู้สึกเบื่อเวลาต้องรับชมสารคดี ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อได้เช่นเดียวกัน แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบภาพยนต์แนวนี้อยู่แล้ว รับรองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณอีกหนึ่งเรื่องอย่างแน่นอน เพราะมันสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเรื่องราว บทตัวละคร การนำเอาประวัติศาสตร์มาเล่าให้เห็นภาพสมจริง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมบูรณ์แบบ
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง The Dig
The Dig จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงแม่หม้ายลูกติดคนหนึ่งที่มีชื่อว่าอีดิธ อดีตสามีของเธอเป็นนายทหารยศนายพันที่เสียชีวิตลงและทิ้งไร่นาบนเนินเขาที่ซัตตันฮูแถบชนบทของอังกฤษเอาไว้ให้กับเธอ ในปี 1938 เธอได้จ้างนักโบราณคดีขุดค้นชื่อบาซิลที่มีความสามารถด้านการขุดหาวัตถุทางโบราณคดีและยังมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากมายให้มาช่วยขุดหาสมบัติบนไร่นาที่กว้างใหญ่ไพศาลของเธอ เนื่องจากเธอคิดว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะมีวัตถุโบราณหรือหลุมฝังศพโบราณซุกซ่อนอยู่
แม้ว่าจะไม่มั่นใจแต่สุดท้ายบาซิลก็ตัดสินใจรับงานนี้โดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามันจะนำพาเขาไปค้นพบซากเรือโบราณที่กลายเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่งของโลกและยังเป็นที่พูดถึงในปัจจุบันในวงการโบราณคดีแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานเกือบ 100 ปีแล้วก็ตาม การขุดค้นในครั้งนี้ก่อให้เกิดมิตรภาพและความรักตามมา รวมไปถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กำลังใกล้มาถึงอีกด้วย
เรือที่เขาขุดพบนั้นเป็นเรือของชาวแองโกล-แซกซัน ชนเผ่าโบราณที่เคยอาศัยอยู่ในทางตอนใต้และทางตะวันออกของอังกฤษตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 จนนอร์มันบุกเข้ามารุกราน หากเปรียบกับสหรัฐอเมริกาพวกเขานั้นก็มีความคล้ายคลึงกับอินเดียนแดงนั่นก็คือเป็นบุคคลท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ณพื้นที่แห่งนั้นมาก่อนจะมีการจัดตั้งประเทศขึ้นมา
พวกเขามีวัฒนธรรมและอารยธรรมเป็นของตนเอง ปัจจุบันโบราณวัตถุมากมายถูกค้นพบบริเวณถิ่นฐานที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่ในอังกฤษ แต่วัตถุโบราณที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดก็คือเรือที่ถูกขุดพบในไร่นาของอีดิธนั่นเอง เพราะมันทั้งมีความสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ ส่งผลต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ของอังกฤษเป็นอย่างมากในเชิงโบราณคดี
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Dig
The Dig เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์และตัวละครที่เคยมีชีวิตจริงในช่วงเวลานั้น แถมเรื่องราวนี้ยังไม่เคยถูกหยิบยกนำเอามาเล่าในรูปแบบภาพยนตร์มาก่อน ทำให้มันมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ออริจินัลเน็ตฟลิกซ์แต่การถ่ายทางกลับสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี นักแสดงหนังที่ไม่ใช่นักแสดงแม่เหล็กระดับตำนานก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
สิ่งที่ดีงามมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือบทพูดของตัวละครที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งและแสงปรัชญามากมาย เพราะในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวคือยุค 30 ที่สงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังผ่านไปและสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังจะก้าวเข้ามานับว่าเป็นอีกหนึ่งยุคมืดในประวัติศาสตร์ การมีชีวิตอยู่ของหญิงผู้หนึ่งที่ต้องดูแลลูกตามลำพังเนื่องจากเสียสามีไปในสงครามจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะทิ้งที่นามหาศาลเอาไว้ให้เธอก็ตาม แต่โชคยังดีที่เธอนั้นตัดสินใจที่จะจ้างคนมาขุดค้นจนทำให้พบกับสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ทางโบราณคดี และมันยังสร้างมิตรภาพรวมไปถึงความรักให้ก่อเกิดขึ้นมาอีกด้วย
ภาพยนตร์ได้นำเอาเรื่องที่คนไม่เคยรู้มาก่อนมานำเสนอได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่เคยรับรู้ประวัติศาสตร์ของอังกฤษมาก่อนก็สามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ แต่อาจจะมีบางจุดที่ไม่เข้าใจว่าทำไมการค้นพบซากเรือในครั้งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะภาพยนตร์ไม่ได้เน้นให้เราได้เห็นถึงความสำคัญของซากเรือดังกล่าว แต่อย่างที่เรากล่าวไปว่ามันเป็นวัตถุโบราณที่จะส่งผลต่อประวัติศาสตร์ที่เราเคยเรียนรู้มาทั้งหมด ดังนั้นในเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มีการค้นพบโบราณวัตถุที่ยังสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่นั่นเอง
ตัวอย่างหนัง The Dig Netflix
รีวิว หนัง The Dig Netflix จาก playinone
The Dig Netflix รีวิว กู้ซาก หนังที่สร้างจากเรื่องจริงของทีมนักขุดและนักโบราณคดีที่ร่วมงานขุดค้นพบซากเรือจากยุค แองโกล-แซกซัน ของอังกฤษ ในการขุดค้นพบที่ ซัตตันฮู ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลกโบราณคดีอังกฤษและของโลกเลยทีเดียว
จุดเด่นมากๆของหนังมีหลายจุดที่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นงานด้านโปรดักชั่น งานภาพ มุมกล้อง ที่เมื่อเราดูแล้วรู้สึกได้เลยว่านี่คือผลงานที่ทีมสร้างมีความตั้งใจอย่างมากในการสร้างสรรค์ การกำกับ การตัดต่อ และการแสดงของทีมนักแสดงในเรื่องที่เรียกได้ว่าเอาหนังอยู่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีบทดราม่าแรงๆ ไม่มีฉากดราม่าเชือดเฉือนทางอารมณ์มากมายนัก แต่คนดูสามารถรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ในเรื่องที่เต็มไปด้วยความอึดอัด กระอักกระอ่วน ตรงนี้ยังต้องขอชมการแสดงของ ราฟ ฟินน์ และ แครี่ มัลลิแกน โดยเฉพาะราฟ ฟินน์ ที่คนส่วนใหญ่อาจจะติดภาพของเขามาจากบทบาทของลอร์ดโวลเดอร์มอร์จากเรื่อง Harry Potter ซึ่งการแสดงของเขาในเรื่องนี้ทำได้ดีเอามากๆ
ส่วนการเดินเรื่องในครึ่งหลัง ต้องชื่นชมการแสดงของ ลิลลี่ เจมส์ ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาทางสีหน้า แววตา และนำ้เสียงในการพูดได้อย่างน่าทึ่ง ใบหน้าสวยๆของเธอที่แม้ว่าจะใส่แว่นตาและดูเป็นสาวเนิร์ด ก็ไม่สามารถบดบังเสน่ห์ของเธอได้ เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่เชื่อว่าจะสามารถขึ้นมารับบทใหญ่ๆได้ในอนาคต
นอกจากนี้ยังมีอีกจุดเด่นของเรื่องก็คือ นัยยะแฝงมากมายที่อยู่ในบทพูดของตัวละคร ซึ่งต้องขอชื่นชมทีมเขียนบทที่ทำได้ลุ่มลึกมาก โดยที่ตัวละครไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกมาตรงๆ แต่คนดูสามารถรับรู้ถึงความเป็นของเรื่องราวและการตัดสินใจต่างๆของตัวละครได้ผ่านนไดอาล็อคที่คลุมเครือเหล่านั้น ต้องขอคารวะเลยครับ
ส่วนจุดด้อยของหนังก็มีอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการตัดต่อและจังหวะเล่าเรื่องของหนังในช่วงท้ายที่อาจจะทำให้คนดูมีช่วงสับสนหรืองงๆ อยู่บ้าง และการที่ตัวหนังทำออกมาเหมือนเพื่อให้คนอังกฤษที่รู้เรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างได้ชมกัน อาจจะทำให้คนดูหลายคนไม่ค่อยเข้าใจว่า การค้นพบซากเรือโบราณของชาวแองโกล-แซกซัน มันสำคัญขนาดไหน
สำหรับความสำคัญที่ว่านั้น เป็นเพราะชาวแองโกล-แซกซัน คือบรรพบุรุษดั้งเดิมของชาวอังกฤษ การค้นพบครั้งนี้สำคัญมาก แล้วมันเป็นการล้างความเชื่อดั้งเดิมที่ว่าชาวแองโกล-แซกซันเป็นพวกป่าเถื่อน ไร้อารยธรรม แต่มีอารยธรรมขึ้นมาได้เพราะการเข้ามาของพวกโรมัน ซึ่งการค้นพบนี้ล้างความเชื่อดังกล่าวหมด
ในภาพรวมแล้ว นี่คือหนังดราม่าอิงประวัติศาสตร์และเรื่องราวของตัวละคร ทั้งความรักและมิตรภาพ โดยผ่านเหตุการณ์การขุดค้นทางโบราณคดี ซึ่งต้องถือว่าเป็นพลอตหนังที่ไม่เคยมีมาก่อน และผู้สร้างทำได้ยอดเยี่ยม ถือว่าเป็นหนังระดับคุณภาพของ Netflix ที่สมควรได้รางวัลอะไรสักอย่างในปี 2021 นี้เลยครับ แนะนำเลย
playinone