ชื่อเรื่อง | The Defeated |
เรตติ้ง | 6.9 |
นักแสดง | Taylor Kitsch,Nina Hoss,Tuppence Middleton |
จำนวนตอน | 8 ตอน |
รีวิวหนัง The Defeated Netflix
รีวิวหนัง The Defeated Netflix ซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวเยอรมันในช่วงหลังสงครามโลกที่ไร้กฎหมาย คนที่จะจารึกเรื่องราวประวัติศาสตร์การรบราฆ่าฟันกันนั้นคือผู้ที่สามารถเอาชนะสงครามได้สำเร็จ ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจกับประเทศที่แพ้สงครามเท่าที่ควร โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ของเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้ว่าทหารนาซีเยอรมันนั้นจะทำเรื่องราวเลวร้ายเอาไว้มากมายอย่างไม่น่าให้อภัยโดยเฉพาะการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว แต่ก็ต้องยอมรับว่าชาวเยอรมันไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับแนวคิดสุดโต่งดังกล่าว แต่พวกเขานั้นล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบจากสงครามอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ยิ่งพวกเขากลายเป็นผู้แพ้สงครามยิ่งต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้นไปอีก
เยอรมันหลังจากที่แพ้สงครามนั้นก็กลายเป็นประเทศที่ไร้กฎหมายไปในระยะเวลาหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยทั้งความยากลำบากและเรื่องราววุ่นวายมากมาย หากคุณอยากรู้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นอย่างไรเราขอแนะนำซีรีส์เรื่อง The Defeated ซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวสังคมในเยอรมันที่ต้องล่มสลายลงไปหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เป็นเรื่องราวที่เราไม่เคยเห็นในสื่อภาพยนตร์หรือแม้แต่ซีรีส์มาก่อนอย่างแน่นอน เพราะส่วนใหญ่แล้วประเทศแพ้สงครามที่ถูกเล่าถึงเป็นประจำจะเป็นญี่ปุ่นมากกว่าเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์
ซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกดดัน สามารถถ่ายทอดวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายหลังต้องเผชิญความพ่ายแพ้จากสงครามที่ก่อขึ้นมาเองแม้ว่าตนเองจะไม่ได้เห็นด้วยก็ตาม แม้แต่ผู้ที่เห็นด้วยยังเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะต้องต่อสู้กับจิตใจของตัวเองเพื่อให้ยอมรับว่าตนเองนั้นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เรียกได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่ให้ข้อคิดแก่เรามากมายเลยทีเดียว
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง The Defeated
The Defeated จะพาคุณไปยังกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันในช่วงปี 1946 เป็นช่วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากสหรัฐอเมริกาได้ทำการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ประเทศญี่ปุ่นจนทำให้ฝ่ายอักษะประกาศยอมแพ้ ส่วนของเยอรมันนั้นก็ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้งกับการรบกับโซเวียตจนทำให้พวกเขาต้องสูญเสียทรัพยากรไปมากมายและอยากจะฟื้นฟูให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมอีกครั้ง
เยอรมนีตกเป็นผู้แพ้สงครามแถมยังอยู่ในฐานะของผู้ก่อสงครามอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เบอร์ลินซึ่งเป็นเมืองหลวงนั้นจึงถูกแบ่งเขตการปกครองออกเป็นทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน โดยแต่ละส่วนนั้นจะถูกปกครองโดยประเทศที่ชนะสงครามซึ่งประกอบไปด้วยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และโซเวียต โดยทางสาธารณะได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งที่มีชื่อว่าแม็กมาประจำการในกรมตำรวจกรุงเบอร์ลินซึ่งอยู่ในเขตปกครองของอเมริกา
ภารกิจของเขานั้นก็คือการฟื้นฟูการทำงานของกรมตำรวจให้สามารถทำงานใหม่ได้อีกครั้ง แต่ท่ามกลางเมืองที่ล่มสลายและไม่มีกฎหมายอีกต่อไปนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมากสำหรับการทำงานของตำรวจ เพราะผู้คนในกรุงเบอร์ลินนั้นไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยวจิตใจอีกต่อไป พวกเขาต้องสูญเสียทุกอย่าง ไร้ซึ่งทรัพย์สินก็เหลือเพียงแค่ตัว อาชีพที่พวกเขาจะสามารถทำได้ก็มีเพียงแค่โจร โสเภณี และการทำงานกับเจ้าหน้าที่รัฐแบบลับๆ
อีกหนึ่งภารกิจที่เขาจะต้องทำก็คือการตามหาทหารกองทัพสหรัฐที่หายตัวไปจากสงครามซึ่งเป็นพี่ชายของเขาเอง แต่หลังจากที่สืบลึกลงไปเรื่อยๆ เขาก็ได้พบว่าพี่เขานั้นได้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายหลังจากที่ต้องเผชิญกับความเลวร้ายในการทำสงคราม
ในขณะเดียวกันเอลลี่ซึ่งเป็นนักข่าวหญิงที่ทำงานร่วมกับชายหนุ่มก็ต้องพยายามดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ประเทศที่เต็มไปด้วยความล้มเหลวและความอดอยากให้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังต้องสืบสาวคดีเลวร้ายที่เกิดขึ้นอีกด้วย อย่างการที่นายแพทย์คนหนึ่งใช้โอกาสในช่วงเวลาเข้าสถานที่ผู้หญิงถูกข่มขืนและตั้งท้องขึ้นมา โดยสวมบทนักบุญทำแท้งให้กับพวกเธอและแลกเปลี่ยนให้เธอทำงานเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง The Defeated
The Defeated เป็นซีรีส์ที่สามารถนำเสนอเรื่องราวที่ไม่เคยถูกนำเสนอมาก่อนเลยในสื่อหลักอย่างภาพยนตร์หรือซีรีส์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยความน่าสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าเยอรมันจะไม่ได้แพ้ยับเยินและได้รับความสูญเสียเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นที่ถูกระเบิดนิวเคลียร์ไปถึง 2 ลูก แต่จากเดิมที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรกับต้องถูกต่างชาติปกครองแถมระบบที่ควรจะมีก็ยังสูญสลายไปหมด ประเทศถูกแบ่ง ไร้ผู้นำ ไร้กฎหมาย เศรษฐกิจล่ม ผู้คนเต็มไปด้วยความอดอยากและยากลำบาก
แม้ว่าจะเล่าถึงเรื่องราวประเทศที่ก่อสงครามเป็นคนแรกแต่ก็ถือว่าเล่าเรื่องได้ค่อนข้างเป็นธรรมเลยทีเดียว เราจะเห็นว่ามีคนเยอรมันไม่น้อยพี่ไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายและไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของนาซี เพียงแต่พวกเขาไม่มีอำนาจมากพอที่จะไปผลักดันอะไร แถมพวกเขายังไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการทรมานหรือสังหารคนยิวเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาต้องรับผลกรรมที่พวกเขาไม่ได้กระทำ เพียงแต่ต้องเพิกเฉยเพราะกลัวอำนาจของนาซี
ไม่เพียงเท่านั้นซีรีส์เรื่องนี้ยังสามารถตีแผ่ความดำมืดในจิตใจของมนุษย์ออกมาได้เป็นอย่างดีเมื่อมนุษย์ถูกผลักให้อยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและย่ำแย่จนถึงขีดสุด ต่างคนนั้นต่างก็พยายามที่จะกอบโกยผลประโยชน์เข้าสู่ตัวเองเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้
น่าเสียดายที่ซีรีส์เรื่องนี้อยากที่จะเล่าหลายประเด็นมากจนเกินไปทำให้ไม่มีประเด็นไหนโดดเด่นขึ้นมาอย่างน่าสนใจเท่าที่ควร และด้วยความที่มันเป็นซีรีส์หลายตอนทำให้ผู้สร้างนั้นดำเนินเรื่องราวไปค่อนข้างช้า มีบางส่วนที่เน้นการยกยอชนชาติอเมริกาจนทำให้ผู้รับชมอย่างเรารู้สึกเบื่อได้ ที่สำคัญคือการจบแบบทิ้งปมไว้แต่ปมที่ทิ้งไว้กับฝืนมากจนเกินไป
ตัวอย่างหนัง The Defeated
รีวิว หนัง The Defeated บางส่วนจาก playinone
The Defeated Netflix รีวิว ผู้แพ้ ซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของสังคมเยอรมันที่ล่มสลายหลังสงครามโลก สมกับชื่อเรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีการนำเสนอให้เห็นทางสื่อภาพยนตร์กระแสหลักมาก่อนเลยว่า ชีวิตของคนเยอรมันเป็นอย่างไรช่วงหลังจบสงคราม
ซีรีส์ค่อนข้างโหดดิบ ตีแผ่ความดำมืดในจิตใจของมนุษย์ แล้วยังเป็นการนำเรื่องราวในช่วงประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยมีใครเล่าเอามานำเสนอได้น่าสนใจด้วย ซีซันแรกมีทั้งหมด 8 ตอน สามารถรับชมได้เลยใน Netflix
เรื่องราวจับความในกรุงเบอร์ลิน ปี ค.ศ. 1946 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ประเทศเยอรมนีในฐานะผู้ก่อสงครามและเป็น “ผู้แพ้” เมืองหลวงเบอร์ลินได้ถูกแบ่งเขตปกครองออกเป็นสี่ส่วนโดยกลุ่มประเทศผู้ชนะสงคราม คือ สหรัฐอเมริกา โซเวียต อังกฤษ ฝรั่งเศส
ทางการสหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม็ก แม็คลอริน ให้มาประจำการที่กรมตำรวจเบอร์ลินที่อยู่ในเขตปกครองของสหรัฐ โดยมีภารกิจหลักคือฟื้นฟูระบบการทำงานของกรมตำรวจกลับมาใหม่ แต่โจทย์ของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับบ้านเมืองที่ล่มสลาย กลายเป็นแดนป่าเถื่อน ชีวิตผู้คนไม่เหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยว อาชีพที่คนทำได้เพื่อหาเลี้ยงชีพเหลือเพียงไม่กี่อย่าง เช่น การเป็นโจรขโมย โสเภณี หรือการทำงานเป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
แม็กยังมีเป้าหมายอีกอย่างในการมาที่เบอร์ลินคือการตามหาพี่ชายของเขาซึ่งเป็นนายทหารในกองทัพสหรัฐที่หายตัวไปหลังจบสงคราม แต่เขาก็พบว่าพี่ชายของเขาได้ก่อเรื่องโหดเหี้ยมบางอย่าง หลังจากได้พบเห็นความโหดร้ายในสงครามที่จบไป
ในขณะเดียวกัน นักข่าวหญิง เอลลี่ ซึ่งทำงานร่วมกับแม็ก ก็ต้องรับมือกับสถานการณ์และคดีเลวร้ายที่เกิดขึ้นรวมถึงความพยายามที่จะสาวไปให้ถึง เองเกิล มาร์เคิล นายแพทย์ที่ใช้โอกาสที่ผู้หญิงในเบอร์ลินต้องอยู่กับการถูกข่มขืนและตั้งท้อง เพื่อทำแท้งและช่วยพวกเธอ โดยแลกกับการใช้งานพวกเธอเพื่อหาผลประโยชน์บางอย่าง
ต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาที่ดีมาก แถมยังเป็นการหยิบเอาช่วงเวลาและวิถีชีวิตของคนเยอรมันหลังจบสงครามโลกมานำเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีการนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ในกระแสหลักมาก่อนเลย ถือได้ว่าเป็นความแปลกใหม่ในการหยิบพลอตประวัติศาสตร์มาใช้เป็นฉากหลัง ซึ่งก็สมกับชื่อของ ผู้แพ้ ได้ดี เพราะปกติแล้วเรามักจะได้รับชมเรื่องราวของคนยิวที่ถูกกระทำในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยพวกนาซีเสียมากกว่า
แต่กับมุมมองและชีวิตของคนเยอรมันในฐานะผู้แพ้สงคราม และเป็นผู้ที่เริ่มสงครามในเวลานั้น กลับไม่ค่อยมีการนำมาบอกเล่าหรือสร้างเป็นซีรีส์โดยฝั่งอเมริกาเท่าใดนัก ตรงนี้เข้าใจว่า อาจเพราะไม่ต้องการให้คนดูรู้สึกเห็นใจชาวเยอรมันในฐานะประเทศผู้ก่อสงครามมากนัก แม้ว่าในซีรีส์หรือภาพยนตร์หลายเรื่องก็จะมีความพยายามนำเสนอว่าคนเยอรมันในเวลานั้นไม่ได้เป็นพวกนาซีไปหมดก็ตามที
ซึ่งมุมมองดังกล่าวจะถูกหยิบยกเอามาพูดถึงตั้งแต่ต้นเรื่อง ว่าคนเยอรมันไม่ใช่คนชั่วร้ายไปหมด แต่ถึงกระนั้นตัวซีรีส์ก็ไม่ได้จะปกป้องพวกเขาว่าไม่ได้มีส่วนในแง่ของการผลักไสคนยิวให้พบความทรมาน ดังนั้นจะบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้เอาภาพคนเยอรมันมาฉายให้เห็นว่าพวกเขาต้องรับผลกรรมหรือผลของการกระทำในแง่ที่เพิกเฉยต่อการครองอำนาจของนาซีอย่างไรบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็คงไม่ได้เกินเลยไปจากความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์มากนัก ในแง่ที่คนเยอรมันตอนนั้นใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หลายคนต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการลักขโมย โสเภณีมีให้เห็นอยู่ทั่วไป แล้วคนเยอรมันก็มาโดนทหารโซเวียตกดขี่เอาบ้าง เหมือนที่ทหารนาซีเคยกดขี่ชาวยิวเอาไว้
จากที่ว่ามาในส่วนนี้ถือว่าเป็นข้อดีของเรื่อง อีกทั้งในด้านโปรดักชั่นก็จัดว่าทำได้ดีในการสร้างฉากของเมืองที่ล่มสลาย เป็นงานซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ระดับคุณภาพ เพียงแต่ปมหลักของเรื่องราวนั้นไม่ได้อยู่ที่การตีแผ่ประวัติศาสตร์อะไรมากนัก แต่ไปเน้นที่ปมการสืบสวนคดีฆาตกรรม การตามสืบหาผู้มีอิทธิพลที่ใช้ประโยชน์จากผู้หญิงในเบอร์ลิน ไปจนถึงการแฉความดำมืดในจิตใจมนุษย์ว่าหากคนเราต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรง การถูกกระทำ ทั้งจากคนในครอบครัวเอง หรือการพบเห็นในสังคมมากเข้าเรื่อยๆ เมื่อถึงวันหนึ่งคนผู้นั้นก็อาจถึงจุดสติแตก ฟิวส์ขาด กลายเป็นพวกต่อต้านสังคมไปในที่สุด
จุดด้อยอีกอย่างที่ผู้รีวิวรู้สึกก็คือ ซีรีส์อวยความเป็นอเมริกันมากไปนิด และโจมตีโซเวียตมาก ประมาณว่าอเมริกันฮีโร่ตลอดกาล ส่วนโซเวียตก็คนชั่วโหดเหี้ยมตลอดกาลเช่นกัน
playinone