ชื่อเรื่อง Below Zero Netflix
เรตติ้ง6.2
นักแสดง Javier GutiérrezKarra ElejaldeLuis Callejo
จำนวนตอน 1.46 ชั่วโมง

รีวิวหนัง The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ

รีวิวหนัง The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวในช่วงยุคสงครามเย็น หลายคนนั้นน่าจะทราบดีว่าโลกของเรานั้นเคยต้องเผชิญชะตากรรมที่ทำให้คนทั่วทั้งโลกนั้นต้องยกขึ้นมาจากอาวุธรบราฆ่าฟันกันเองอย่างในสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 สงครามทั้ง 2 ครั้งนี้เป็นสงครามใหญ่ที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์และทำให้เรานั้นต้องสูญเสียประชากรมนุษย์ไปเป็นจำนวนมาก และยังต้องสูญเสียทรัพยากรไปเป็นจำนวนมากไม่แพ้กันอีกด้วย

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามใหญ่ทั้ง 2 ครั้งนี้ทำให้มันกลายเป็นที่จดจำของคนส่วนใหญ่ แต่ถ้าพูดถึงสงครามเย็นที่เป็นสงครามใหญ่ที่ทั่วทั้งโลกนั้นต้องเผชิญแถมมันยังสร้างผลกระทบมากมายกลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงมากเท่าไรนัก

นั่นก็เป็นเพราะว่าสงครามเย็นไม่ใช่สงครามที่จะลุกขึ้นมาจับอาวุธฆ่าฟันกันโดยตรงเหมือนกับในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง แต่มันเป็นสงครามเพื่อแย่งชิงอำนาจด้วยการสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์และเป็นสงครามที่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เป็นช่วงเวลาที่ทั้งอเมริกาและรัสเซียนั้นต่างก็พยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยและมีจำนวนมากเพื่อก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก

ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีการรบราฆ่าฟันกันแต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความกดดันและการชิงไหวชิงพริบการระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยอำนาจ The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวสายลับในช่วงเวลาสงครามเย็น 

ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ถูกจริตผู้รับชมในประเทศไทยเท่าไหร่นัก เนื่องจากมันไม่ได้มีฉากต่อสู้แบบล้างผลาญหรือมีอะไรที่จะทำให้เราสามารถร้องว้าวได้ตลอดเวลาที่รับชม ด้วยบรรยากาศในช่วงสงครามเย็นที่ภาพยนตร์เรื่องใช้เป็นฉากหลังนั้นมักจะเต็มไปด้วยความกดดันและการชิงไหวชิงพริบ ทำให้ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะไม่ได้มีฉากน่าดึงดูดสำหรับผู้รับชมชาวไทย แต่รับรองว่าหากได้รับชมแล้วจะไม่สามารถละสายตาออกจากจอได้เลย

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ

The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามที่อเมริกาและรัสเซียนั้นต่างก็สะสมอาวุธที่เต็มไปด้วยอันตรายอย่างอาวุธนิวเคลียร์ ในช่วงเวลานั้นมีเซลล์แมนชาวอังกฤษคนหนึ่งที่มีชื่อว่าวินน์ ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานของรัฐอย่าง CIA และ MI6 ในการทำภารกิจบางอย่างที่เต็มไปด้วยความอันตราย

เขานั้นต้องเดินทางไปยังสหภาพโซเวียตและพยายามแทรกซึมเข้าสู่ในตัวเมืองสาธารณรัฐโซเวียตให้สำเร็จ ภารกิจของเขาคือการลักลอบส่งข่าวเกี่ยวกับการลักลอบขนอาวุธที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอย่างอาวุธนิวเคลียร์เพื่อทำการถล่มอเมริกาในการแย่งชิงความเป็นประเทศมหาอำนาจ 

โดยมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าทางสหภาพโซเวียตนั้นจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เหล่านี้ในการถล่มอเมริกาในช่วงที่สงครามเย็นใกล้จะจบลงทุกทีและกลายเป็นสงครามโลกเช่นเดียวกับทุกครั้ง ทำให้เขานั้นต้องร่วมงานกับโอเล็ก ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในโซเวียตที่คอยรับหน้าที่ในการแอบส่งข่าวให้กับประเทศทางฝั่งตะวันตก เพื่อแลกกับการตอบแทนให้ครอบครัวของเขานั้นได้ลี้ภัยไปอาศัยอยู่ในประเทศแถบตะวันตก

ในขณะที่สถานการณ์ระหว่างอเมริกาและสหภาพโซเวียตนั้นไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก สถานการณ์เกี่ยวกับระเบิดนิวเคลียร์ที่ประเทศคิวบาเองก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดเช่นเดียวกัน ทำให้การร่วมมือกันระหว่างเซลล์แมนจากประเทศอังกฤษและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพโซเวียตนั้นต้องร่วมมือกันเพื่อรักษาสันติภาพของโลกใบนี้เอาไว้ให้ได้

แต่มันก็ไม่ง่ายเพราะทั้งสองคนนั้นมาจากต่างประเทศและต่างความคิดความเชื่อ พวกเขานั้นต้องอาศัยความไว้วางใจซึ่งกันและกันเป็นเครื่องเดิมพันในการทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ และถ้าหากพวกเขาทำภารกิจไม่สำเร็จสิ่งที่จะตามมาก็คือการต่อสู้กันด้วยอาวุธนิวเคลียร์ที่ยากเกินกว่าจะควบคุม สิ่งที่พวกเขาทำจึงไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจธรรมดาทั่วไปแต่เป็นการเดิมพันกับความสันติสุขของโลกใบนี้

สาเหตุที่คุณควรรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ

The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องการทำภารกิจที่ต้องอาศัยไหวพริบและความชาญฉลาด ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีฉากการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความดุเดือด หรือไม่ได้มีเรื่องราวความรักโรแมนติก แต่มันก็สามารถมอบความสนุกสนานและความน่าติดตามให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศภายในเรื่องนั้นจะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสถานการณ์นั้นก็สามารถไต่ระดับความรุนแรงได้ในระดับที่กำลังพอดี ทำให้เรานั้นรู้สึกอยากจะเอาใจช่วยตัวละครทั้งสอง ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ไว้วางใจความคิดของทั้งคู่ไปด้วย 

ไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้นักแสดงน้ำมากฝีมืออย่างเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์มารับบทนำอีกด้วย ด้วยความที่เป็นนักแสดงมากฝีมือทำให้เขานั้นสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาได้จนเรานั้นเชื่อว่าเขาเป็นเซลล์แมนจริงๆ ที่ต้องมารับภารกิจอันตรายที่เดิมพันด้วยความสันติสุขของโลกใบนี้

ดังนั้นเราจึงจะได้เห็นทั้งความตึงเครียดและความกดดัน รวมไปถึงการพยายามใช้ไหวพริบและความชาญฉลาดในการเอาตัวรอดและทำภารกิจให้สำเร็จของตัวละคร และทั้งหมดที่ว่ามานี้คือสิ่งที่ช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน 

ตัวอย่างหนัง The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ

https://www.youtube.com/watch?v=oeYElSu3gEc

รีวิว หนัง The Courier คนอัจฉริยะฝ่าสมรภูมิรบ จาก Beartai และ review

นาน ๆ ทีจะมีภาพยนตร์สายลับที่อิงช่วงเวลาสงครามเย็นมาเข้าฉายเสียที ซึ่งแม้อาจจะไม่ตรงจริตคนดูยุคนี้ที่ต้องการเห็นอะไรตูมตามบนจอตลอดเวลาหรือกระทั่งมีฉากชวนจิ้นเรียกแขกเข้าโรงหนัง แต่กระนั้นเราก็ไม่อยากให้ทุกท่านพลาด ‘The Courier’ หนังสายลับทริลเลอร์ที่สร้างจากเรื่องจริงชวนตะลึงที่เข้าโรงรับสงกรานต์ปีนี้เป็นทางเลือกความบันเทิงที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับสถานการณ์ที่เรายังคงออกไปเล่นน้ำสงกรานต์กันไม่ได้แบบนี้

เกรย์วิล วินน์ (เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ – Benedict Cumberbatch) เซลส์แมนชาวอังกฤษได้รับการติดต่อจาก MI6 และ CIA ในการแทรกซึมเข้าสู่สาธารณรัฐโซเวียตเพื่อนำส่งข่าวการลักลอบขนอาวุธนิวเคลียร์เพื่อเตรียมถล่มสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาที่สงครามเย็นใกล้สะเด็ดน้ำ โดยวินน์ต้องร่วมงานกับโอเล็ก เพนคอฟสกี (มีราบ นีนิตเซ – Merab Ninidze)เจ้าหน้าที่ระดับสูงของโซเวียตที่แอบลักลอบส่งข่าวให้โลกตะวันตกเพื่อหวังแลกกับการลี้ภัยของครอบครัว แต่เมื่อสถานการณ์นิวเคลียร์ที่คิวบาเริ่มตึงเครียดทั้งวินน์และเพนคอฟสกีต้องเอาชนะเกมที่เดิมพันด้วยความไว้วางใจและสันติภาพของโลกใบนี้

โดมินิก คูก (Dominic Cooke) ผู้กำกับที่อาจจะยังไม่มีผลงานโดดเด่นมาก่อนหน้านี้ แต่กับ ‘The Courier’ ก็นับได้ว่าสอบผ่านอย่างสวยงามด้วยการคุมบรรยากาศความตึงเครียดของสงครามเย็นที่เป็นฉากหลังและการไต่ระดับของสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ ก็นำเสนอได้อย่างมีชั้นเชิงและน่าเอาใจช่วย ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้บทหนังของ ทอม โอ คอนเนอร์ (Tom O’Connor) ด้วยที่ดัดแปลงเรื่องจริงอันน่าเหลือเชื่อมาเป็นบทหนังระทึกขวัญที่ดูสนุกไม่แพ้หนังหนังทริลเลอร์ยุค 70 ขึ้นหิ้งหลายเรื่องเลยทีเดียว

อีกส่วนที่ต้องชื่นชมคือทัพนักแสดงที่ต่างปล่อยฝีมือกันอย่างเต็มที่ สำหรับ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ นั้นหายห่วงอยู่แล้วเรื่องความทุ่มเทให้บทบาทที่ได้รับ โดยคัมเบอร์แบตช์สามารถถ่ายทอดทั้งความไม่แน่ใจว่าเซลส์แมนธรรมดาอย่างเขาจะไปเกี่ยวพันกับภารกิจสายลับอันตรายได้อย่างไร ไปจนถึงความกล้าหาญที่ตัวละครวินน์ของเขาได้ค้นพบแม้มันจะพาเขาไปสู่สถานการณ์ที่ยากลำบากเกินคาดเดาก็ตาม

และไม่เพียงนักแสดงนำคนดังเท่านั้น ทีมนักแสดงสมทบต่างทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีทั้งมีราบ นีนิตเซที่รับบทเพนคอฟสกีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโซเวียตที่ยอมขายชาติแลกความสงบสุขก็ทำให้เราเห็นอีกด้านของประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงนักแสดงสาวทั้ง ราเชล บรอสนาฮาน (Rachel Brosnahan) และ เจสซี บัคลีย์ (Jessie Buckley) ในบทเอมิลี โดโนแวน เจ้าหน้าที่การฑูตของอเมริกาและ ชีลา ภรรยาผู้แสนอดทนของวินน์ต่างก็ทำหน้าที่ของตนได้ดีจนหลุดพ้นไม้ประดับของหนังไปได้อย่างสวยงาม

สำหรับใครที่คาดหวังจะได้ดูหนังแอ็กชันที่ยิงกันระเบิดระเบ้อ ’The Courier’อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ใช่นัก แต่รับรองว่าบทสนทนาฉลาด ๆ และการชิงไหวชิงพริบของตัวละครจะทำให้หนังทริลเลอร์เรื่องนี้สร้างความบันเทิงให้คุณได้อย่างเกินคาดเลยล่ะครับ

Beartai

สิ่งที่รู้สึกประทับใจอย่างแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเขียนบทที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าการดำเนินเรื่องจะเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ด้วยบทสนทนาและจังหวะการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นตลอด 1 ชั่วโมง 52 นาทีทำให้ The Courier เป็นภาพยนตร์ที่น่าติดตามได้ตลอดทั้งเรื่อง ภาพยนตร์ค่อยๆ ไล่ระดับความเข้มข้นทั้งด้านเนื้อเรื่องและอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครหลักสองตัวที่ทั้ง Benedict Cumberbatch (แกรวิลล์) และ Merab Ninidze (เพนคอฟสกี) ทำหน้าที่ของทั้งสองตัวละครได้อย่างดีเยี่ยม

ไม่ใช่เพียงแต่ด้านอารมณ์ความรู้สึก แต่ทั้งสองคนส่งพลังของตัวละครให้แก่กันได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งนำไปสู่บทสรุปที่น่าประทับใจในช่วงท้าย และภาพยนตร์ยังมีการนำเอาสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นมาเล่าประกอบควบคู่ไปกับตัวบทอีกด้วย

ทำให้ง่ายขึ้นต่อความเข้าใจในด้านประวัติศาสตร์ และส่งเสริมความรู้สึกผ่านตัวละครได้มากขึ้น อีกจุดที่ The Courier ทำได้ดีมากคือเพลงบรรเลงประกอบครับ ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้ยินเสียงเพลงบรรเลงที่ค่อยๆบรรเลงไปกับเนื้อเรื่อง ซึ่งเพลงบรรเลงนี้ไม่ใช่แค่ความไพเราะแต่ช่วยส่งเสริมอารมณ์ของหนังให้ดีขึ้นได้อย่างมากอีกด้วยครับ สามารถทำให้เราอยู่กับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ตั้งแต่ต้นยันจบแบบไม่หลุดไปไหนเลยได้ครับ

review

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *