ชื่อเรื่องSpenser Confidential
เรตติ้ง6.5
นักแสดงMark Wahlberg,Winston Duke
จำนวนตอน1.51 ชั่วโมง

รีวิวหนัง Spenser Confidential Netflix

รีวิวหนัง Spenser Confidential Netflix ภาพยนตร์แนวต่อสู้ปัญหาของตำรวจที่ชอบยุ่งเรืองชาวบ้าน เราพูดถึงตำรวจแล้วภาพลักษณ์ที่เราควรจะต้องนึกถึงก็มักจะเป็นผู้ชายในชุดเครื่องแบบที่สามารถพึ่งพาอาศัยได้มีความเป็นผู้ใหญ่ใจเย็นมีความสุขชุมนุ่มลึกในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ในความเป็นจริงแล้วตำรวจมันก็เป็นเพียงแค่อาชีพหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะมีลักษณะนิสัยอย่างไรก็ตามเพียงแค่ขอเข้าตามคุณลักษณะและเกณฑ์ตามที่กำหนดเอาไว้ก็สามารถเป็นตำรวจได้แล้วมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกอะไรหากจะมีตำรวจที่มีนิสัยชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านไปทั่วอย่างเช่นในภาพยนตร์เรื่อง Spenser Confidential

ที่เล่าถึงเรื่องราวของอดีตตำรวจที่ต้องเข้าสู่โลกอาชญากรรมเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเขาภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้คอมเมดี้ที่มีฟอร์มอยู่ในระดับกลางๆของ Hollywood คือไม่ได้เป็นภาพยนตร์ต่อสู้ฟอร์มยักษ์ แต่ก็มีอากการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยพลังการให้เราเห็นได้บ้างมีเนื้อเรื่องตลกขบขันที่ออกจะเป็นจริงไปซักเล็กน้อยมีการนำเอาดาราชื่อดังมาเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพยนตร์เพื่อให้มีแรงดึงดูดมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้มีเพียงแค่ชื่อของดาราเท่านั้นที่น่าสนใจ แต่เนื้อเรื่องภายในอีกก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานไม่น้อยเช่นเดียวกันเป็นเรื่องราวที่มีความแปลกใหม่

แต่เราก็เคยเห็นภาพยนตร์กลิ่นอายนี้มาก่อนแล้วก่อนหน้านี้ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์สัก 1 เรื่องสำหรับการรับชมเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ไม่ต้องคิดอะไรมากมายภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่าสามารถตอบโจทย์ให้คุณได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนว่าด้วยความกวนประสาทของตัวพระเอกรับรองว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกหัวร้อนได้ในบางครั้งอย่างแน่นอน แต่มันก็เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ช่วยให้มันมีความครบรสกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง Spenser Confidential

Spenser Confidential จะเล่าถึงเรื่องราวของตำรวจหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่าสเปนเซอร์เขาเป็นตำรวจหนุ่มไฟแรงที่รักความยุติธรรมเป็นอย่างมากเพียงเท่านั้นเขายังชอบไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมากจนเกินไปจนทำให้แฟนเขามักที่จะเตือนเขาอยู่สม่ำเสมอว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านมากไม่เช่นนั้นจะลำบากตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วในวันหนึ่งเขาก็ต้องเข้าคุกไปเพราะดันไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทต่อยตำรวจด้วยกันจนต้องติดคุกเป็นระยะเวลายาวนานถึง 5 ปี

และต้องออกจากราชการตำรวจอีกต่างหากหลังจากที่เขาออกจากคุกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขากลับต้องพบกับคดีที่ตำรวจถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนาถึง 2 นาย แต่มันดูเหมือนการจัดฉากให้นายตำรวจ 2 คนนั้นฆ่ากันตายเองด้วยความที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เขานั้นอดรนทนไม่ไหวต้องการที่จะกลับมาสืบสวนสอบสวนคดีนี้เหมือนกับตัวเองยังเป็นตำรวจอยู่โดยเขานั้นมีคู่หูเป็นชายผิวสีในค่ายฝึกมวยที่มีชื่อว่าฮอว์กลอยร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ด้วย แต่พ่อเขาไม่ใช่ตำรวจอีกต่อไปแล้วทำให้การเข้าไปสืบสวนสอบสวนคดีนั้นทำได้ยากเป็นอย่างมากเขาเลยต้องนัดความกวนและมุกตลกมากมาย

เพื่อหลอกล่อให้ได้ข้อมูลมาจากเป้าหมายให้ได้มากที่สุดไม่เพียงเท่านั้นทุกครั้งที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้เขาก็มักจะโดนรุมซ้อมแทบทุกครั้งเลยทีเดียวแม้แต่หมายังไม่กัดเขาเลยไม่มีเว้นเขาไม่รู้เลยว่าการสืบคดีในครั้งนี้จะนำพาเขาไปเชื่อมโยงกับการก่อเหตุอาชญากรรมและโลกใต้ดินในเมืองบอสตันเขาต้องเผชิญกับภัยคุกคามการถูกไล่ล่าและการข่มขู่อย่างหนัก แต่เขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสืบหาความจริงต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่จะสามารถอยู่เหนือกฎหมายได้เรื่องราวของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปติดตามเอาใจช่วยกันในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Spenser Confidential

Spenser Confidential เป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้ตลกขบขันดังนั้นแน่นอนเลยว่าตัวละครเอกของเราไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือคู่หูของเขาไม่ว่าจะเจอศัตรูทีไรก็โดนอัดจนน่วมทุกทีเรียกได้ว่าเป็นมวยลองมาตลอดทั้งเรื่องมีการผสมผสานการต่อสู้สไตล์ฮ่องกงออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวมีการผสมผสานมุขตลกเข้ามาได้อย่างแนบเนียนตั้งแต่ในระดับเล็กน้อยไปจนถึงขำจนปอดโยกตัวละครพระเอกและคู่หูของเขานั้นถือว่ามีความเข้ากันได้เป็นอย่างดี

ตัวละครสมทบทั้งหลายนั้นก็ทำออกมาจิกกัดสภาพสังคมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่จุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือเป็นภาพยนตร์ที่ช่วงสืบสวนสอบสวนนั้นค่อนข้างง่ายจนเกินไปดูเหมือนไม่มีอะไรเลยทำให้ความเข้มข้นในส่วนนี้หายไปบทค่อนข้างธรรมดาไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อนทำให้สามารถเดาได้ง่ายโดยเฉพาะตัวร้ายที่ไม่มีความคลื่นลึกหนาบางเลยแม้แต่น้อยในขณะเดียวกันจากการต่อสู้ทำออกมาได้ดี

แต่ก็อยู่ในระดับธรรมดามาตรฐานทั่วไปไม่ได้มีอะไรที่น่าประทับใจดังนั้นมันจึงเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับการรับชมเพื่อฆ่าเวลาสำหรับคนที่อยากจะหาหนังตลกรับชมเพื่อความสนุกสนานเท่านั้นหากรับชมเป็นจริงเป็นจังคุณคงรู้สึกหงุดหงิดการกระทำของตัวละครไม่น้อยเลยทีเดียว

ตัวอย่างหนัง Spenser Confidential

รีวิว หนัง Spenser Confidential บางส่วนจาก beartai

เวลามีผู้กำกับหนังคนดังมาร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์เราก็เดา ๆ ได้ว่าน่าจะด้วยเหตุผลประมาณ 3 ข้อนั่นล่ะ คือ อย่างแรกมันเป็นโพรเจกต์ที่ค่ายหนังใหญ่ไม่สนใจทำ หรือไม่ก็ สองคือเป็นโพรเจกต์ที่ผู้กำกับคนนั้นอยากลองอะไรใหม่ ๆ เปลี่ยนบรรยากาศ และสามก็คือไม่เลือกงานไม่ยากจน (ฮา) สำหรับ ปีเตอร์ เบิร์ก ผู้กำกับเจ้าของงานแอ็กชันธริลเลอร์ใหญ่ ๆ ที่มักอิงจากเรื่องจริงอย่าง Lone Survivor (2013) และ Patriots Day (2016) ที่งานยุคหลังนอกจากจะเน้นความซีเรียสจริงจังจากเหตุการณ์จริงแล้ว การมาร่วมงานกับ มาร์ค วาห์ลเบิร์ก ก็กลายเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ไปเลย เหตุผลที่ทั้งคุ่มาร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์ดูจากงานนี้ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน เพราะนอกจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ได้ลองทำกับเน็ตฟลิกซ์แทนค่ายหนังแล้ว เนื้อหาของหนังก็ยังได้ดัดแปลงนิยายชุดสืบสวนการคอร์รัปชันในแวดวงตำรวจที่มีตัวละครนำชื่อ สเปนเซอร์ ของนักเขียนดังนาม โรเบิร์ต บี. พาร์กเกอร์ ซึ่งเคยเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์ช่วงปี 1985 เรื่อง Spenser: For Hire มาเปลี่ยนให้กลายเป็นแนวบู๊ปนฮาร้าย ๆ ด้วย ซึ่งงานหนังตลกเรื่องสุดท้ายของเบิร์กนี่ต้องย้อนไปตอนทำ Hancock (2008) นู่นเลยทีเดียว เรื่องนี้แกน่าจะได้ปลดปล่อยพอสมควร

ด้วยความที่ดัดแปลงเอามันจากนิยายที่ซีเรียส ๆ หน่อยทำให้ตัวหนังมีความทั้งจริงจังและไม่จริงจังไปพร้อมกัน ในขณะที่ปริศนาในคดีและเหล่าตัวร้ายจะค่อนข้างดูสมจริงและซีเรียส แต่ผู้ชมก็จะไม่เบื่อเพราะบุคลิกของสเปนเซอร์ อดีตตำรวจที่เข้าคุกเพราะไม่ชอบความอยุติธรรมนั้นเป็นตัวละครที่มีสีสัน ปากหมา หน้ายับ รักหมากว่าแฟน และชอบแกว่งเท้าเข้าไปหาเสี้ยนทุกครั้งที่เห็นคนบริสุทธิ์เดือดร้อน ยิ่งการเข้าคู่กับพวกตัวละครอื่นฝั่งพระเอกที่คาแรกเตอร์จัดเกินปกติ ทั้ง ฮอว์ก (ได้ วินสตัน ดู๊ก ที่เล่นเป็น เอ็มบากู ในหนัง Black Panther มาเล่น) ตัวละครผิวสีคู่หูสุดหน้าตายและรักสัตว์ของสเปนเซอร์ที่ถูกปรับจากตำรวจในนิยายมาเป็นเด็กฝึกของค่ายมวย ตาลุงเฮนรี่ ชายแก่ที่ให้ความช่วยเหลือด้านที่พักหลังพระเอกออกจากคุกมาก็เป็นตาแก่ไม่ทันเทคโนโลยีแต่มีความเก๋าแบบโอลด์สคูล รวมถึง ซิสซี่ แฟนสาวของสเปนเซอร์ที่ผีเข้าผีออกอารมณ์รุนแรงเดาใจยาก ทั้งหมดเมื่อรวมตัวกันก็เลยกลายเป็นแก๊งที่ไม่ลงรอยกันเองแต่ก็เข้าขากันเยี่ยมเวลาคับขัน ช่วยให้หนังดูสนุกพอสมควร

ข้อเสียของหนังก็เป็นความไม่สุดเท่าไหร่นักนั่นล่ะ เพราะในแง่ของตัวละครนำก็จัดเป็นตัวละครที่น่าสนใจ ดูได้เพลิน ๆ เรื่อย ๆ แต่ยังไม่ได้ติดใจขนาดอยากดูซีรีส์ต่อเนื่องไปหลังจากนี้ (ถ้ามีอย่างที่ท้ายเรื่องห้อยปมไว้) ในขณะที่ฝั่งตัวร้ายด้วยเนื้อหาการคอร์รัปชันในแวดวงตำรวจที่พัวพันกับนักการเมืองและแก๊งอาชญากรรมใหญ่โตมาก แต่เพราะหนังไม่ได้เทให้กับเรื่องพวกนั้นเพียงพอมันก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าพวกตัวร้ายน่ากลัวหรือเจ๋งขนาดที่กล่าวอ้างมาเลย ยิ่งฉากแอ็กชันก็เป็นแบบที่เดาได้ (เช่นฉากรถบรรทุกที่เป็นภาคบังคับมากว่าจะต้องมีแน่ ๆ) และก็เป็นอะไรที่โอลด์สคูลมาก ๆ ไม่ได้หวือหวาน่าจดจำอะไร

นี่ยังเป็นหนังเรื่องแรกของแรปเปอร์ดังอย่าง โพสต์ มาโลน ด้วย ก็ได้โชว์ฝีมือการแสดงกวน ๆ จิต ๆ อยู่นิดหน่อย โดยรวมแล้วก็เป็นหนังที่ฆ่าเวลาพอได้ ไม่ได้ถึงกับแนะนำอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ถึงกับว่าจงหนีไป เป็นงานที่เอาความผ่อนคลายเป็นที่ตั้งทั้งตัวผู้สร้างและผู้ชม สเปนเซอร์ (มาร์ค วาห์ลเบิร์ก) อดีตตำรวจถูกดึงเข้าสู่โลกอาชญากรรมใต้ดินของบอสตันเมื่อค้นพบความจริงเบื้องหลังฆาตกรรมซ่อนเงื่อนและการพยายามสมคบคิดเพื่อปกปิดคดี แม้จะถูกคุกคามและข่มขู่ แต่สเปนเซอร์ก็มุ่งมั่นที่จะแสวงหาความยุติธรรมด้วยตนเองเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าไม่มีใครอยู่

มาร์ค วาห์ลเบิร์ก ก็ยังเอาอยู่ในบทแบบทั้งจริงจังทั้งตลกหน้าตาย คาแรกเตอร์น่าจดจำดีในฝั่งตัวเอก ดูเพลิน ดูง่าย มุกตลกเป็นแบบยิ้ม ๆ ไม่ถึงกับฮา ไม่ได้มีฉากที่น่าจดจำ เรื่องการสืบสวนและตัวร้ายเข้มไม่สุด

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *