| ชื่อเรื่อง | Shazam |
| เรตติ้ง | 7.0 |
| นักแสดง | Zachary Levi, Mark Strong, Asher Angel |
| จำนวนตอน | 2.12 ชม. |
รีวิวหนัง Shazam
รีวิวหนัง Shazam หลังจากที่ค่ายหนัง DC นั้นไม่ค่อยมีหนังออกมาให้แฟน ๆ DC ได้ปราบปลื้มสักเท่าไหร่ แม้กระทั่งนำฮีโร่ที่ดังที่สุดอย่าง Batman และ Superman มาเจอกัน DC ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่หลังจากที่ค่าย DC นั้นเริ่มมีการปล่อยฮีโร่ตัวอื่น ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ก็เริ่มได้กระแสและแฟนหนังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Wonder Woman และ Aquaman ที่คว้าใจแฟน ๆ ไปได้อย่างล้นหลามกันเลยทีเดียว
และหลังจากที่หนังของค่าย DC นั้นได้รับกระแสตอบรับดีมากขึ้น จึงทำให้ทางค่ายเริ่มผลิตหนังฮีโร่ตัวใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ และเรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นั้นก็คือ Shazam หลังจากที่ค่าย DC ได้ปล่อยตัวอย่างของ Shazam ออกมาบอกเลยว่ากระแสตอบรับดีอย่างล้นหลาม การันตีจาก Trailer หนัง ยอดวิวปัจจุบันใน Youtube ทะลุไปแล้วที่ 47 ล้าน View และหลังจากที่หนังได้ฉายออกไปผ่านสู่สายตาของคนดู ก็พูดได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ปังอย่างแน่นอน
เรื่องรางของ Shazam นั้น จะพูดถึงพ่อมดตนหนึ่งที่มีชื่อว่า Shazam ซึ่งได้ทำการกักขังเหล่ามารที่ชั่วร้ายไว้ถึง 7 ตน แต่แล้ววันหนึ่งพลังของพ่อมด Shazam นั้นก็เริ่มอ่อนแรงลงจนเขาต้องหาผู้สืบทอดพลังคนต่อไปเพื่อจะมาแทนที่เขานั่นเอง จนทำให้เขานั้นได้มาเจอกับเด็กชายคนหนึ่ง บิลลี่ เบทสัน เขานั้นเป็นเด็กกำพร้าที่คอยตามหาแม่แท้ ๆ ของเขาแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ทำเรื่องวุ่นวายให้ต้องถูกตำรวจจับ และเขาก็ได้ถูกส่งตัวไปยังบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้มี คู่รักคู่หนึ่งขอรับตัวเขาไปเลี้ยงซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้มีครอบครัวอีกครั้ง มีทั้ง พ่อ แม่ พี่ น้อง พร้อมหน้า
แต่แล้วเหตุการณ์ต่อมาก็จะพูดถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเคยถูกพ่อมด Shazam เลือก แต่เขานั้นเป็นเด็กที่มีความโลภมากเกินไป Shazam นั้นต้องการเด็กชายที่มีจิตใจที่บริสุทธิ์ เพื่อจะมาสืบทอดพลังพ่อมดของเขานั่นเอง หลังจากที่เด็กหนุ่มคนนี้ได้ถูกปฏิเสธการคัดเลือกให้เป็นพ่อมดของ Shazam เขาก็ฝังใจเจ็บแค้น และหวังว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมาและได้ถูกเลือกอีกครั้ง จนปัจจุบันเขาได้โตขึ้นเป็น Dr.Sivana และเขาได้ทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางมาเจอกับพ่อมด Shazam อีกครั้ง และเขาก็ทำสำเร็จเขาได้กลับมาช่วงชิงพลังของเหล่ามารร้ายทั้ง 7 ที่ถูกพ่อมดขังอยู่ พ่อมดจึงต้องเริ่มทำการหาตัว แชมป์เปี้ยน เพื่อมาสืบทอดพลังของพ่อมด Shazam ก่อนที่เขานั้นจะหมดพลัง
และแล้วเขาก็ค้นพบเจอเด็กคนนั้น แชมป์เปี้ยน ที่จะสืบทอดพลังของพ่อมด Shazam ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก บิลลี่ เบทสัน หลังจากที่บิลลี่ได้รับเลือกให้เป็น Shazam เขาก็ได้ใช้พลังของเขาเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน แต่เขาก็ยังเด็กเกินไปที่จะทำอะไรได้ เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพลังของเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง อีกทั้ง Dr.Sivana ที่มีพลังของเหล่ามารร้ายทั้ง 7 ก็คอยตามเล่นงานเพื่อจะทำลาย แชมป์เปี้ยน ของพ่อมด เพื่อที่เขาจะได้ครองโลกใบนี้ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป สนุกแค่ไหน บอกเลยว่า Shazam ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
ตัวอย่างหนัง Shazam
รีวิว หนัง Shazam จาก IMDB
ฉันต้องไปดูการฉาย Shazam ก่อน! ที่โรงละครในพื้นที่ของฉันและเด็กชายก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่ใช่เรื่องไร้ที่ติ แต่ความดีมีมากกว่าความเลวบ่อยกว่าไม่ดี ด้วยเรื่องราวที่สดใสพลังงานที่ไร้ขอบเขตและความรู้สึกสนุกสนานที่ไม่อาจต้านทานได้นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดถ้าไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุดของ DCEU จนถึงตอนนี้
Direction: ฉันรู้สึกว่า David Samberg เป็น Taika Waititi ของ DCEU เขาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์คนนี้ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงในเรื่องสยองขวัญมาก่อนซึ่งทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่แปลกสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนมหาศาล เขาช่วยให้แสงสว่างส่องเข้ามาในโลกนี้ แต่ไม่ได้แสดงถึงการกระทำ ทิศทางและการประสานงานของเขาผ่านการจัดเฟรมช่วยให้เราหัวเราะและในบางกรณีรู้สึกถึงการชก แอ็คชั่นไม่ครึกครื้นเหมือนภาคอื่น ๆ ของ DCEU และเนื่องจากสีสันที่สดใสทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหนเกิดขึ้นและกำลังเกิดขึ้นกับใคร ทำได้ดี.
เขียนไม่สม่ำเสมอ แต่สนุกแน่นอน เป็นเรื่องราวพื้นฐานที่เปลี่ยนจุดเริ่มต้นของ Billy Batson ให้เป็นการเล่าเรื่องยุคใหม่โดยมีองค์ประกอบบางอย่างของ Big อยู่ในนั้น อารมณ์ขันนั้นตรงเวลาและตลกอย่างต่อเนื่อง เมตาตลกและอารมณ์ขันภายในจำนวนมากช่วยให้เรื่องราวมีความรู้สึกสดใสขึ้น ความสัมพันธ์ที่เขียนด้วยความจริงใจและเรื่องราวนั้นได้ใจมาก ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยกคือตัวละครสำคัญของบิลลี่ ทั้งสองเวอร์ชันระหว่างผู้ใหญ่และเด็กดูเหมือนจะเป็นคนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันเป็นความไม่ลงรอยกันที่เป็นเพียงส่วนเดียว (นอกเหนือจากปัญหาวายร้ายทั่วไป) ที่ทำให้คุณมีปัญหาเกี่ยวกับการเขียน
การแสดง: ฉันสาบานเลย Zachary Levi เกิดมาเพื่อเล่น Shazam! เขามีความกระตือรือร้นแบบเด็กและมีหัวใจอย่างง่ายดาย เขาเปล่งเสน่ห์และจริงๆ … ฉันไม่สามารถพูดได้เพียงพอดังนั้นนี่คือ: Zachary Levi คือความสมบูรณ์แบบ ส่วนที่เหลือ … Kid Billy ค่อนข้างกระชับลง แต่ก็ยังเล่นได้ดีทีเดียว Mark Strong รับบทเป็นคนร้ายที่น่ากลัว นักแสดงเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Jack Dylan Fraiser (Grazer ฉันขอโทษที่ฉันจำไม่ได้จากด้านบนของหัวของฉัน) ดีมาก นักแสดงเด็กดีขึ้นจริงๆ การแสดงสนับสนุนอื่น ๆ เล่นได้ดีมากและทุกคนก็รู้ว่าใครคือดาราตัวจริงของภาพยนตร์เรื่องนี้: ฉันขอโทษฉันจะกลับมาที่เรื่องนี้ต่อไป Zachary Levi เป็นสมบัติของชาติ
อะไรอีก … ดนตรีไพเราะและจริงใจฉันพูดถึงซีเควนซ์แอ็คชั่น … ส่วนอื่น ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้มีไว้เพื่อเพิ่มเรื่องราวของบิลลี่เป็นหลักและฉันก็ชอบมัน โลกนี้สนุกอย่างปฏิเสธไม่ได้และเราไม่ได้ดึงออกมาจริงๆ
อนาคตสดใสสำหรับ DCEU ด้วยบทเช่น Shazam! (9/10)
jakebirkel 27 March 2019
ถ้านี่คือศักยภาพของ DCEU ทำไมถึงมีภาพยนตร์บนโลกอย่าง Justice League, BvS และ Suicide Squad? ยิ่งฉันดูหนังแบบนี้มากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งคิดว่าสไนเดอร์เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของ DCEU
ดี: Zachary Levi ยอดเยี่ยมในฐานะ Billy Batson เวอร์ชั่นผู้ใหญ่ เขาสามารถเล่นเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นวัยรุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ การแสดงของเขาเหลือเชื่อมาก เขามีเคมีที่น่าทึ่งกับตัวละครอื่น ๆ ทั้งหมดซึ่งทำให้ประสบการณ์นี้ดีมาก หนังสนุกสุดยอดจากบนลงล่าง ไม่มีส่วนเดียวที่รู้สึกน่าเบื่อหรือไม่น่าสนใจ ส่วนโค้งที่มอบให้กับบิลลี่นั้นค่อนข้างดีและเราก็เริ่มชอบตัวละคร ชิ้นส่วนที่ตลกขบขันส่งมอบที่ดีที่สุด ผู้กำกับแซนด์เบิร์กได้แสดงความเก่งกาจในทางที่ดีมาก ฉันคิดเสมอว่าเขาเป็นผู้กำกับที่ดีมาก ภาพยนตร์สยองขวัญของเขาเช่น Lights Out และ Annabelle Creation กำกับได้ค่อนข้างดีข้อบกพร่องที่สำคัญอยู่ที่บทถ้ามี ที่นี่ไม่มีปัญหาเช่นนี้กับสคริปต์ และเขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าส่วนหนึ่งของเรื่องราวจะต้องกำกับอย่างไร บางส่วนมีกลิ่นอายของหนังสยองขวัญที่ดี แต่ก็ไม่สอดคล้องกัน มันรู้ว่ามันพยายามจะเป็นอย่างไรและไม่เอาจริงเอาจังเกินไป แม้ในบางครั้งจะเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ที่ตลกขบขัน มันไม่เคยพยายามที่จะเป็นภาพยนตร์มหากาพย์โดยรู้ว่ามันไม่เหมือนกับ BvS แน่นอนว่าจะทำให้ใบหน้าของคุณมีรอยยิ้มตลอดเวลาและทำให้คุณหัวเราะได้มาก ช่วงเวลาสุดท้ายคือช่วงเวลาที่น่าพึงพอใจของฝูงชนที่ทำถูกต้อง แน่นอนว่าจะทำให้ใบหน้าของคุณมีรอยยิ้มตลอดเวลาและทำให้คุณหัวเราะได้มาก ช่วงเวลาสุดท้ายคือช่วงเวลาที่น่าพึงพอใจของผู้คน แน่นอนว่าจะทำให้ใบหน้าของคุณมีรอยยิ้มตลอดเวลาและทำให้คุณหัวเราะได้มาก ช่วงเวลาสุดท้ายคือช่วงเวลาที่น่าพึงพอใจของฝูงชนที่ทำถูกต้อง
ผสม: มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ฉันคาดหวังเรื่องตลกมากกว่านี้ สิ่งที่ฉันได้รับมันเยี่ยมมาก แต่ฉันอยากได้ของตลก ๆ มากกว่านี้ เด็กที่เล่น Billy Batson วัยรุ่นไม่ใช่นักแสดงที่ไม่ดี แต่บางครั้งก็รู้สึกเหมือนว่าเขาและลีวายส์ต่างกันเล็กน้อย มันน่าจะดีขึ้นเล็กน้อย
ไม่ดี: คนร้ายเป็นคนร้ายที่คิดโบราณ เขาไม่ได้น่าสนใจในฐานะตัวละครอย่าง Thanos, Ledger’s Joker หรือ Bane Mark Strong ทำงานได้ดี แต่นี่เป็นตัวร้ายที่เขียนไม่ดี
บทสรุป: ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ให้ความบันเทิงซึ่งรู้ว่ามันคืออะไรและค่อนข้างมีแคมป์ในทางที่ดี ไม่ใช่แนวคิดดั้งเดิมของภาพยนตร์ มี Tropes ที่เป็นที่นิยมบางประเภทและมีเทมเพลตที่คุ้นเคยสำหรับเรื่องราวต้นกำเนิด แต่แน่นอนว่ามันจะทำให้คุณเพลิดเพลินไปจนจบและคุณจะชอบตัวละครส่วนใหญ่ สิ่งที่ดีที่สุดคือแม้ว่าคุณจะไม่เคยดูภาพยนตร์ DCEU มาก่อน แต่ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่าง ไม่มีการอ้างอิงถึงภาพยนตร์ DCEU ก่อนหน้านี้และเป็นสิ่งที่เป็นของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แนะนำแม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้
NpMoviez 12 April 2019