ชื่อเรื่อง | Resident Evil Infinite Darkness |
เรตติ้ง | 5.9 |
นักแสดง | Nick Apostolides,Stephanie Panisello,Jona Xiao |
จำนวนตอน | 4 ตอน |
รีวิวหนัง Resident Evil Infinite Darkness Netflix
รีวิวหนัง Resident Evil Infinite Darkness Netflix จากเกมยอดนิยมในตำนานสู่การเป็นอนิเมชั่นมินิซีรีส์ ถ้าพูดถึงเกมแนว Survival Horror ที่เป็นตำนานและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปีนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเกม Resident Evil เราคงไม่ต้องบอกแล้วว่าเกมนี้ได้รับความนิยมขนาดไหน เพราะมันถึงขั้นที่ออกภาคต่อมาได้อย่างยาวนานจนถึงภาค 8 มีภาคเสริมมากมาย มีการนำเอาไปทำเป็นอนิเมชั่น ภาพยนตร์ หลายต่อหลายภาคหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน แต่มันก็ยังคงได้รับความนิยมและกลายเป็นที่พูดถึงทุกครั้งที่มีการปล่อยสื่อบันเทิงเกี่ยวกับ Resident Evil ออกมา
สำหรับใครที่ชื่นชอบเกมส์นี้ไม่ควรพลาดมินิซีรีส์อนิเมชั่นจากทางค่ายแคปคอมโดยตรงอย่าง Resident Evil: Infinite Darkness โดยเด็ดขาด เพราะซีรีส์เรื่องนี้มีการเล่าเรื่องราวที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวภายในเกมเข้าไปด้วย เราจะได้เห็นตัวละครภายในเกมที่เราชื่นชอบมากมายหลายตัว ไม่เพียงเท่านั้นมันยังมีความสั้นเพียงแค่ 4 ตอนเท่านั้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีเวลามากมายแต่ก็สามารถรับชมได้โดยที่ไม่เบียดเบียนเวลาส่วนอื่นแต่อย่างใด จะทำให้คุณได้สนุกสนานและลุ้นระทึกไปกับการทำภารกิจของลีออน เอส เคนเนดี้และแคลร์ เรดฟิลด์อย่างแน่นอน
ซีรีส์เรื่องนี้สร้างออกมาเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปีในการออกแฟนไชส์เกม Resident Evil ดังนั้นหากคุณเล่นเกม Resident Evil มาโดยตลอด เราก็อยากจะขอแนะนำให้คุณได้ลองรับชมซีรีส์เรื่องนี้ดู รับรองว่าคุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Resident Evil: Infinite Darkness
Resident Evil: Infinite Darkness เป็นอนิเมชั่นซีรีส์ที่จะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องมาจากเกม Resident Evil ภาค 2 และ 4 รวมไปถึงภาพยนตร์อนิเมชั่นยาวอย่าง Resident Evil Degeneration เรื่องราวทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในปี 2006 แคลร์ เรดฟิลด์ที่รอดจากเหตุการณ์ใน Raccoon City ในเกมภาค 2 ได้สำเร็จก็ได้เข้าร่วมกับองค์กรเทอร์ราเซฟ องค์กรที่คอยดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากอาวุธชีวภาพหรือซอมบี้นั่นเอง ในประเทศเปนัมสถานนั้นต้องพบเจอกับสถานการณ์ของเหล่าอาวุธชีวภาพที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง มีผู้ได้รับผลกระทบมากมาย แคลร์เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปยังประเทศดังกล่าวเพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
เธอนั้นได้เข้าไปตีสนิทกับเด็กชายคนหนึ่งก่อนที่เขาจะเอาภาพวาดให้เธอดู แต่หลังจากที่เธอดูภาพวาดของเขาแล้วมันก็ทำให้เธอสามารถเชื่อมโยงภาพนั้นเข้ากับเหตุการณ์เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้ติดต่อไปยังลีออนซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเองลีออนได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมประชุมในทำเนียบขาวเนื่องจากประธานาธิบดีเกรแฮมนั้นต้องการให้เขาทำการสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับการที่คนร้ายเข้ามาแฮกข้อมูลในทำเนียบขาวและได้ข้อมูลสำคัญของรัฐบาลสหรัฐไป
ในภารกิจครั้งนี้มีออนต้องร่วมมือกับเจสันซึ่งเป็นฮีโร่ในเหตุการณ์สงครามเปนัมสถานในช่วงปี 2000 หญิงสาวชาวจีนจากรัฐบาลอย่างเฉิน เหมย และเจ้าหน้าที่หนุ่มแพทริคที่ไม่ชอบลีออนเท่าไหร่นักเพราะคิดว่าเขาเป็นเด็กเส้น แต่หลังจากที่รับภารกิจได้ไม่นานทำเนียบขาวก็ถูกโจมตีโดยเหล่าซอมบี้จำนวนมาก แต่หลังจากลีออนได้ดูภาพของแคลร์เขาก็ได้ค้นพบความจริงในภาพนั้น แต่ไม่ทันที่จะได้ทำอะไรเขาก็ต้องเดินทางไปยังเซี่ยงไฮ้เพื่อตามสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทีมที่เหลือ
ในฝั่งของแคลร์นั้นก็ได้พยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเข้ากับทฤษฎีสมคบคิด แต่ยังไม่ทันที่เธอจะสามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดได้สำเร็จเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ก็ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทันตั้งตัว
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Resident Evil: Infinite Darkness
หากใครที่เป็นแฟนเกม Resident Evil หรือมีความชื่นชอบใน Resident Evil รับรองว่าจะต้องชื่นชอบซีรีส์เรื่อง Resident Evil: Infinite Darkness อย่างแน่นอน เพราะเพียงแค่เราเห็นตัวละครที่เราเคยเล่นหรือสวมบทบาทภายในเกมก็ทำให้เรารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจแล้ว
แต่ถ้าพูดถึงในมุมมองของผู้รับชมทั่วไป ด้วยความที่ซีรีส์เรื่องนี้ผู้สร้างนั้นเป็นค่ายเกม ดังนั้นแน่นอนว่ามันจะไม่เป็นไปตามความคาดหวังที่เรื่องราวจะเต็มไปด้วยความเข้มข้นสนุกสนานอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถทำเรื่องราวภายในเกมได้อย่างยอดเยี่ยมแต่มันก็คนละแบบกันกับการสร้างอนิเมชั่น ทำให้เรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะคาดเดาได้ง่าย บางจังหวะการเล่าเรื่องไม่ค่อยดี หากไม่เคยเล่นเกมมาก่อนก็อาจจะอินกับปมของตัวละครน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
แม้ว่าจะใช้ตัวละครหลักเป็นลีออนและแคลร์ที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมาก่อนในเกมภาค 2 แต่ในซีรีส์เรื่องนี้บทจะเล่าเรื่องดักไปที่ตัวลีออนมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวนั้นก็จะมีการหักมุมให้เราได้รู้สึกทึ่งและอยากติดตามต่อเป็นระยะ งานภาพสามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กับอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ สามารถสอดแทรกประเด็นทางสังคมและการเมืองเข้ามาได้อย่างกำลังพอดี ด้วยความที่มันเป็นซีรีส์ตอนสั้นที่มีระยะเวลารวม 8 ชั่วโมงเท่านั้น มันจึงยังคงเป็นซีรีส์ที่มีความคุ้มค่าแก่การรับชม และถ้าคุณติดตามจักรวาล Resident Evil มาโดยตลอดคุณไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด
ตัวอย่างหนัง RESIDENT EVIL INFINITE DARKNESS
รีวิว หนัง RESIDENT EVIL INFINITE DARKNESS จาก playinone
Resident Evil: Infinite Darkness เล่าเรื่องในปี 2006 แคลร์ เรดฟิลด์ได้ผูกมิตรกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งระหว่างที่อยู่ในประเทศเปนัมสถาน เขาได้วาดภาพบางอย่างให้เธอได้เห็นและเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต เธอจึงติดต่อลีออน เคนเนดี้ เพื่อนซี้หนุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ในขณะนั้นลีออนได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมประชุมที่ทำเนียบขาวโดยประธานาธิบดีเกรแฮมต้องการให้สืบหาคนร้ายที่แฮ็กขโมยข้อมูลสำคัญของรัฐบาลสหรัฐ นำโดย เจสัน ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นฮีโร่แห่งเปนัมสถานจากเหตุการณ์สงครามกลางเมือง
เมื่อปี 2000 เฉิน เหมย หญิงสาวชาวจีนหน้าตาสะสวยจากรัฐบาลที่เดินทางเข้าร่วม และ แพทริค ชายหนุ่มที่ไม่ชอบหน้าลีออนเพราะคิดว่าเขาเป็นเด็กเส้นของประธานาธิบดี แต่แล้วไม่นานทำเนียบขาวก็ถูกโจมตีโดยซอมบี้ที่บุกเข้ามา จนกระทั่งลีออนได้ค้นพบความจริงของภาพเหล่านั้น แต่ไม่ทันไรเขาก็ต้องเดินทางเพื่อค้นหาความจริงที่เซี่ยงไฮ้ เมืองจีน ตามที่ทางรัฐบาลสืบได้ร่วมกับทีมที่เหลือ ในขณะที่แคลร์เริ่มเชื่อมโยงเหตุการณ์บางอย่างในอดีตกับทฤษฏีสมคบคิดที่กำลังเกิดขึ้นเข้าด้วยกัน ทว่า ไม่ทันไรก็เกิดมหันตภัยร้ายที่จะทำลายความสงบสุขของโลกก็คืบคลานเข้าหาพวกเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว นำมาซึ่งเหตุโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญที่จะพิสูจน์ความสัมพันธ์ของทั้งคู่
ในส่วนประเด็นถือว่ากล้าเล่นพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องการเมืองที่หยิบนำเรื่องของการเมืองสหรัฐอเมริกามาผนวกกับเรื่องของจีน เรื่องอาวุธชีวภาพที่ถูกสร้างเพื่อเป็นกำลังในการรบราโดยมีประเทศที่ 3 ทางตะวันตตกในเรื่องอย่างเปนัมสถานเป็นสถานทดลอง ถ้าใครชอบทฤษฏีสมคบคิดเหล่านี้จะชอบมาก เพราะมันทำให้เราได้คิดตามหาคำตอบ และ ความจริงว่าเราควรจะเชื่อมั่นในรัฐบาลหรือเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองเห็น ในซีรีส์เล่นเรื่องนี้ด้วยใช้การวางปมของเรื่องที่ผนวกกับจินตนาการเรื่องเชื้อไวรัสซอมบี้ที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการทางทหารและจะทำให้ประเทศต่าง ๆ หันมาทำสงคราม
ในขณะเดียวกันคนที่ขายอาวุธชีวภาพเหล่านี้ก็จะร่ำรวยโดยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลอีกที เป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่ทับซ้อนกันไปมา แล้วประชาชนก็จะไม่มีทางรับรู้ความจริงหรือไม่หากรู้ก็จะถูกปิดปาก แต่ในขณะเดียวกันความกลัวนั้นก็ผลักดันให้คน ๆ หนึ่งสามารถทำเรื่องยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงเหมือนกับที่ตัวละครตัวหนึ่งใช้ความกลัวเป็นตัวขับเคลื่อนแผนการชั่วร้าย ในขณะที่อีกคนเลือกจะตามติดข้อมูลเพื่อสืบหาความเป็นจริงจนภัยมาถึงตัว แต่ก็ทำให้เขาได้เข้าใจโลกมากขึ้น หลังจากอยากจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคนอื่นจนรู้ว่าความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น และผลักดันตัวละครไปในทิศทางที่คาดไม่ถึง สะท้อนให้เห็นถึงควมเจ็บปวดของทหารผ่านศึกและคนที่ผ่านความเจ็บปวดในอดีตผ่านตัวละครต่าง ๆ และสุดท้ายแล้วเมื่ออุดมการณ์สวนทางกัน ก็ไม่อาจจะเดินในเส้นทางเดียวกันได้อีกต่อไป ทำให้นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกตอนนี้ทั้งในไทยและต่างประเทศ
เป็นซีรีส์ผีชีวะที่ร่วมทุนกับเน็ตฟลิกซ์เพื่อใช้เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีที่ไม่ดีเท่าที่ควร แม้พล็อตของเรื่องจะพอใช้ได้ในเรื่องประเด็นการเมือง การแสดงของตัวละครที่สมจริง เช่นเดียวกับงานภาพอนิเมชั่นระดับคุณภาพ และเสียงพากย์ที่ดีงามทั้งไทยและอังกฤษ แต่การแบ่งหั่นตอนและการเล่าเรื่องแบบซีรีส์ไม่สอดคล้องกับความยาว 25 นาทีต่อตอนเลย ถ้าแบ่งตอนให้เยอะกว่านี้ ความยาวตอนสัก 40 นาทีมันจะดีมาก ๆ พอเป็นแบบนี้ข้อเสียหลัก ๆ
จึงเป็นการเล่าเรื่องเร็ว รวบรัด การเล่าเรื่องที่เล่าแบบไม่บอกทั้งหมดจนตามแทบไม่ทัน ขาดฉากแอ็คชั่นหรือการบิวต์อารมณ์ในความสัมพันธ์ให้ลุ้นมากพอที่จะตอบสนองแฟนเกม แต่สำหรับคนที่อยากลองดูซีรีส์แนวทดลองแบบไม่รู้จัก RESIDENT EVIL มาก่อนก็อาจจะชอบอยู่ก็ได้ แต่ก็น่าผิดหวังที่ภาพลักษณ์ของมันดีมาก แต่มาตายเพราะความยาวของเรื่องแท้ ๆ จะข้ามไปเลย หรือจะดูฆ่าเวลาผมว่าก็สิทธิ์ของคุณแล้วล่ะ เพราะผมผิดหวังจริง ๆ กับการทำซีรีส์ที่ความยาวไม่เพียงพอต่อการนำเสนอเรื่องราวหรือปมที่น่าสนใจในจักรวาล RESIDENT EVIL
playinone