| ชื่อเรื่อง | Below Zero Netflix |
| เรตติ้ง | 6.2 |
| นักแสดง | Javier Gutiérrez, Karra Elejalde, Luis Callejo |
| จำนวนตอน | 1.46 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง Nomadland (2020)
รีวิวหนัง Nomadland (2020) ภาพยนตร์รางวัลลูกโลกทองคำจากผู้กำกับหญิงชาวจีน ประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่มีบุคลากรที่มีความเก่งในสาขาต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความที่ประเทศดังกล่าวเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ และมีความเป็นชาตินิยมสูง ทำให้บางสิ่งบางอย่างมีอุปสรรคขัดขวางในการพัฒนาสร้างขึ้นมา
แม้แต่ในวงการภาพยนตร์เองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอุปสรรคเหล่านั้นได้ หรือหากสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็จะมีเรื่องดราม่าเข้ามาพัวพันเสมอ ไม่เพียงเท่านั้นประเทศจีนยังเป็นประเทศที่เรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศนั้นยังไม่ได้รับการตระหนักถึง เรายังจะคงเห็นเรื่องการกดขี่ผู้หญิง อย่างเช่นข่าวดังที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้กับหญิงสาวที่กระโดดตึกตายพร้อมกับลูกในท้อง เนื่องจากแม่ของสามีและสามีของเธอนั้นไม่ยินยอมให้เธอใช้ยาชา
เรื่องน่าเศร้าเกี่ยวกับผู้หญิงในประเทศจีนนั้นเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่กับผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีนที่มีความสามารถ แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิงทำให้เธอนั้นยังคงไม่อาจหลีกเลี่ยงเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้นได้ เธอนั้นมีชื่อว่าโคลอี้ เจา เธอเป็นชาวจีนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเมืองปักกิ่ง แต่หลังจากอายุ 15 ปีเธอก็ถูกครอบครัวส่งให้ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นก็ได้เดินทางไปที่นิวยอร์กเพื่อเรียนต่อในด้านภาพยนตร์ หลังจากนั้นเธอก็อาศัยอยู่ในอเมริกาจนถึงปัจจุบัน
เธอนั้นได้ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้กำกับภาพยนตร์มากความสามารถที่คว้ารางวัลได้มากมาย ผลงานล่าสุดของเธอก็คือ Nomadland เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์ดราม่า ไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังส่งให้เธอได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกหนึ่งรางวัลด้วย เธอนั้นได้กลายเป็นผู้กำกับหญิงชาวจีนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
แต่การรับรางวัลของเธอในครั้งนี้ก็สร้างความรักมากขึ้นในประเทศจีนเช่นเดียวกัน เพราะเธอนั้นเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อหลายปีก่อนว่าประเทศของเธอนั้นน่าจะเป็นอเมริกาไปแล้ว และประเทศจีนนั้นก็เต็มไปด้วยเรื่องโกหก หากมองผ่านมุมมองของคนที่ใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลานานนับสิบปี ความคิดเหล่านี้ไม่ใช่ความคิดที่แปลกประหลาดแต่อย่างใด แต่สำหรับชาวจีนที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมองว่าบทสัมภาษณ์นี้เป็นการปฏิเสธความเป็นจีนของเธอและยังเป็นการหักหน้าประเทศอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ทำให้มีชาวจีนที่รักชาติมากมายออกมาเรียกร้องให้เธอนั้นเปิดเผยว่าเธอถือสัญชาติอะไรอยู่ หลายคนรู้สึกโกรธเคือง และยังมองว่าชาวจีนนั้นไม่ควรฉลองและยินดีกับความสำเร็จของเธอเพราะเธอไม่ใช่คนจีนแล้ว หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับภาพยนตร์ของเธอบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เริ่มถูกไล่ลบจนกลายเป็นดราม่าครั้งใหญ่ และอาจส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนี้ไม่ถูกออกฉายในประเทศจีน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Nomadland
Nomadland เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ตัดสินใจจะทิ้งบ้านของตัวเองและออกเดินทางไปยังแถบตะวันตกของอเมริกา เป็นการออกเดินทางเพื่อแสวงหาบางสิ่งบางอย่างที่เธอต้องการ ในดินแดนแถบตะวันตกนั้นเป็นดินแดนที่มีภูมิประเทศสุดครั้งว่างเปล่า การใช้ชีวิตเป็นคนเร่ร่อนในพื้นที่แห่งนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อนที่เดินทางไปทั่วนั้นก็เกิดจากพิษเศรษฐกิจที่ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเธอติดขัด
แต่ทุกอย่างก็ไม่ง่ายเพราะเธอนั้นมีอายุกว่า 60 ปีแล้ว แถมสามีนั้นก็เพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ทำให้เธอนั้นต้องขายทุกสิ่งที่เธอมีไม่ว่าจะเป็นข้าวของหรือแม้แต่ละทิ้งที่อยู่ของตนเองเพื่อซื้อรถตู้คันหนึ่งและอาศัยอย่างยากลำบากในนั้น เธอเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อหางานทำแลกกับเงินในการดำรงชีวิต
การเดินทางทำให้เธอนั้นได้พบเจอทั้งเพื่อนร่วมงานและเพื่อนในชีวิตของเธอมากมาย ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเอาตัวรอดเมื่อต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนและวิธีการพึ่งพาตนเองเมื่อต้องอาศัยอยู่บนรถตู้ แต่เธอก็ยังคงต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายอย่างเช่นรถยางแตก หรือการที่เพื่อนของเธอนั้นต้องล้มป่วยลงไป
โคลอี้ เจา ผู้กำกับชาวจีนเจ้าของผลงานภาพยนตร์เรื่อง Nomadland ตัวเต็งรางวัลออสการ์
แม้ว่าผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Nomadland จะเป็นหญิงสาวชาวจีนตั้งแต่กำเนิดและอาศัยอยู่ในประเทศจีนตั้งแต่เกิดจนมีอายุถึง 15 ปี แต่หลังจากที่เธอนั้นได้ออกเดินทางไปเรียนและทำงานยังต่างประเทศทำให้เธอนั้นแทบจะกลายเป็นคนต่างชาติไปแล้วในสายตาของชาวจีน ไม่เพียงเท่านั้นผลงานของเธอนั้นก็ล้วนแล้วแต่เล่าถึงเรื่องราวที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับประเทศจีนเลยแม้แต่น้อย
ด้วยความที่เธอนั้นเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสามารถ ประกอบกับบทสัมภาษณ์ที่ถูกขุดออกมาจะกลายเป็นดราม่าในปัจจุบัน ทำให้ผลงานของเธอนั้นถูกมองข้ามทั้งที่มันสามารถทำคะแนนบน website rotten Tomato ได้สูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์
มันจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากเมื่อชาวจีนนั้นทำการแปะป้ายให้กับผลงานว่าผลงานเหล่านั้นมีสัญชาติอะไร จากการที่พวกเขาเรียกร้องให้เธอนั้นออกมาเปิดเผยสัญชาติปัจจุบันที่ถืออยู่ หากมองให้ดีแล้วจะพบว่าในประเทศจีนนั้นศิลปะยังคงไม่มีอิสรภาพในการแสดงออกหรือนำเสนอสิ่งที่ต้องการให้ผู้อื่นได้รับรู้ได้
อย่างที่เราทราบกันดีว่าในประเทศจีนนั้นยังคงมีการกำหนดเกี่ยวกับภาพยนตร์ต่างประเทศที่จะมาเข้าฉายในประเทศของตนเองมากมายไม่ว่าจะเป็นโควตาหรือการพิจารณาเนื้อหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์หรือความมั่นคงของประเทศจีนตามมุมมองของผู้ปกครองในประเทศจีน ซึ่งบางครั้งหากมองจากมุมมองของคนภายนอกแล้วเราก็อาจจะไม่เข้าใจ อย่างเช่นการแบนการ์ตูนเรื่องหมีพูห์
ตัวอย่างหนัง Nomadland (2020)
รีวิว หนัง Nomadland (2020) จาก beartai
เริ่มเข้าสู่ช่วงเดือน 4 เดือนสุดท้ายของปีซึ่งเป็นช่วงเวลาของการปล่อยหนังดราม่าหวังรางวัลให้คณะกรรมการออสการ์และผู้ชมทั่วไปได้ยลโฉม แม้ว่าในปีหน้าจะยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการจัดพิธีมอบรางวัลความยอดเยี่ยมของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดแห่งปีอย่างออสการ์หรือไม่ หรือเกณฑ์การตัดสินให้หนังที่ออกฉายน้อยเรื่องในปีโควิด-19 ปีนี้จะเป็นอย่างไร แต่ค่ายหนังก็เริ่มเดินสายโปรโมตหนังเรื่องเยี่ยมของพวกเขาแล้ว รวมถึงตัวหนังที่น่าสนใจก็เริ่มเดินสายคว้ารางวัลแล้วด้วยเช่นกัน
ประเดิมรางวัลแรกอย่างรางวัลสิงโตทองคำ รางวัลสูงสุดของเทศกาลหนังเวนิส ซึ่งผู้ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ตกเป็นของ Nomadland ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือชื่อของผู้กำกับ Chloé Zhao ซึ่งเป็นผู้กำกับของหนังเมนสตรีมซูเปอร์ฮีโรของจักรวาลมาร์เวล เรื่อง The Eternals ที่เดิมจะออกฉายปลายปีนี้ (ซึ่งจะทำให้ Chloé Zhao ทั้งหนังแมสและอินดี้เข้าฉายไล่เลี่ยกัน) แต่เลื่อนฉายไปเป็นกุมภาพันธ์ปีหน้าแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเคยมีผลงานสร้างชื่ออย่าง The Rider (2017)
หนังบอกเล่าเรื่องราวของ Fern หญิงวัย 60 เศษ ๆ ที่สูญเสียทุกอย่างในภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ เธอเลยเก็บของและออกเดินทางทั่วอเมริกาฝั่งตะวันตก ใช้ชีวิตเป็นคนเร่ร่อนยุคใหม่ที่อาศัยอยู่ในรถตู้ RV รับบทนำนี้โดย Frances McDormand นักแสดงเจ้าของสองรางวัลออสการ์นำหญิงจาก Fargo (1996) และ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri (2017) ที่บทในเรื่องนี้ก็มีรูปลักษณ์ของตัวละครที่สิ้นหวัง คล้ายเรื่องนั้นที่เธอแสดงอยู่พอสมควร ยังมีนักแสดงมีชื่ออีกแค่คนเดียวคือ David Strathairn จาก Godzilla (2014) และเข้าชิงออสการ์ดารานำชายจาก Good Night, and Good Luck. (2005) จึงถือได้เลยว่า นี่เป็นหนังอินดี้สุด ๆ อีกเรื่องหนึ่ง
Frances McDormand ได้เล่าให้สื่ออย่าง Variety ฟังว่า การได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนได้เติมเต็มความฝันในชีวิตจริงของเธอให้เป็นจริงขึ้นมาด้วย เพราะเธอเคยบอกสามีเอาไว้ตอนอายุ 45 ว่า เธออยากเปลี่ยนชื่อเป็น Fern ตอนอายุ 65 และเริ่มสูบบุหรี่ Lucky Strikes ดื่มเหล้าของชาวตุรกี และขับรถไปทั่วด้วยรถบ้านหรือรถ RV ส่วนชีวิตจริงที่ตอนนี้เธออายุ 63 ปีแล้ว และก็ได้มาแสดงเป็นคนที่เธออยากเป็นผ่านหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือ “Nomadland: Surviving America in the Twenty-First Century” ของ Jessica Bruder เธอยังได้ร่วมแสดงกับผู้เร่ร่อนและอาศัยอยู่ด้วยรถบ้านจริง ๆ อีกหลายคน McDormand ยังบอกว่าประสบการณ์ในการแสดงหนังเรื่องนี้ ทำให้วิถีการแสดงของเธอเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมด้วย
ปัจจุบันหนังได้รับคำวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 100% คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 9.43/10 จากนักวิจารณ์ 26 คน ซึ่งแทบจะแน่นอนว่า หนังและนักแสดงน่าจะไปมีบทบาทบนเวทีล่ารางวัลหลายแห่งช่วงปลายปีและต้นปีหน้า มีกำหนดฉายในอเมริกา 4 ธันวาคมนี้ ส่วนบ้านเราต้องรอลุ้นว่าจะมีค่ายหนังค่ายไหนซื้อสิทธิ์มาฉายหรือไม่
beartai