ชื่อเรื่อง | MY BEST FRIEND ANNE FRANK |
เรตติ้ง | 6.3 |
นักแสดง | Aiko Beemsterboer,Josephine Arendsen |
จำนวนตอน | 1.43 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง MY BEST FRIEND ANNE FRANK
รีวิวหนัง MY BEST FRIEND ANNE FRANK เรื่องราวของเด็กหญิงชาวยิวที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เราต่างชาติเป็นดีว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเกิดเหตุโศกนาฏกรรมอะไรขึ้นบ้าง และเหตุการณ์ที่สามารถสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนทั้งโลกมาได้ตลอดระยะเวลาเกือบ 100 ปี ไม่ว่าจะพูดถึงกี่ทีก็ทำให้หลายคนถึงกับต้องน้ำตาไหลก็คงจะหนีไม่พ้นเหตุการณ์โฮโลคอส หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวที่ทหารนาซีซึ่งนำโดยฮิตเลอร์ตั้งใจที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวทั้งหมดไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง แม้แต่คนชราหรือผู้พิการที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ต่างก็เป็นเหยื่อให้กับการฆาตกรรมในครั้งนี้จนทำให้ชาวยิวที่บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตไปหลายล้านคนเพียง เพราะว่าฮิตเลอร์มองว่าคนเหล่านี้เป็นพวกที่ทำให้เยอรมันต้องพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1
แม้ว่าในเหตุการณ์ครั้งนั้นจะมีชาวยิวหลายล้านคนต้องสังเวยชีวิตไปกับความบ้าคลั่งแต่ก็ยังมีชาวยิวจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยวิธีการต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป บางคนสามารถลี้ภัยได้ทัน บางคนก็ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มนายทุนหรือแม้กระทั่งทหารนาซีด้วยกันเองก็มี และหนึ่งในนั้นก็คือเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่าแอนนา แฟรงค์ เธอกลายเป็นที่รู้จักของคนไปทั่วทั้งโลกเนื่องจากในช่วงเวลาที่เธอต้องพยายามหลบซ่อนกองทัพนาซีเพื่อเอาชีวิตรอดเธอนั้นได้ทำการเขียนบันทึกขึ้นมาเป็นไดอารี่ที่เล่าถึงความโหดร้ายและความหวาดกลัวที่เธอต้องพบเจอในแต่ละวัน หลังสงครามสิ้นสุดลงบันทึกดังกล่าวได้ถูกนำเอามาเผยแพร่และทำให้เราหลายคนต้องสะเทือนใจไปกับสิ่งที่เธอต้องพบเจอ และที่น่าเศร้าใจไปมากกว่านั้นบทสรุปสุดท้ายคือเธอเป็นหนึ่งในชาวยิวที่ถูกจับไปยังค่ายกักกัน
เรื่องราวของเธอนั้นถูกนำเอามาตีแผ่หลายต่อหลายครั้งเนื่องจากไม่ว่าผ่านไปนานเท่าไรก็ตามสุดท้ายแล้วโลกของเราก็ยังคงไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังคงมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งได้หลายประเทศ และในครั้งนี้ก็ได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวของเธอในภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า MY BEST FRIEND ANNE FRANK หากใครที่ยังไม่เคยรับรู้เรื่องราวของเธอมาก่อนหรือชื่นชอบที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านบันทึกของเด็กหญิงคนนี้สามารถไปรับชมเรื่องราวของเธอได้บน NETFLIX
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง MY BEST FRIEND ANNE FRANK
MY BEST FRIEND ANNE FRANK เป็นภาพยนตร์ที่แตกต่างออกไปเพราะมันเป็นการนำเอาเรื่องจริงมาแต่งเติมเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านตัวละครเพื่อนรักของแอนนา แฟรงค์อย่างฮาน่า ในปี 1942 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะปะทุขึ้นมามิตรภาพระหว่างเด็กสาวทั้งสองคนนั้นเบิกบานอย่างสวยงาม พวกเขาก็เหมือนเด็กสาวทั่วไปที่มีทั้งความฝันและมีอนาคตอีกยาวไกล แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องจบลงไปด้วยการเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามได้ทำให้พวกเขาทั้งสองคนต้องแยกจากกัน กองทัพเยอรมันบุกเข้าไปจับตัวฮาน่าพร้อมกับครอบครัวไปที่ค่ายกักกันในฐานะของเฉลยชาวยิว เธอนั้นต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมายและใช้ชีวิตเพื่อรอวาระสุดท้ายที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ ชะตากรรมที่สุดแสนจะน่าสลดทำให้เธอนั้นนึกย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่สุดแสนจะสดใสตอนที่เธอยังสามารถใช้ชีวิตได้อิสระในโลกภายนอก มีกินมีใช้ ได้โอกาสในการเรียนหนังสือเหมือนกับที่เด็กทั่วไปควรจะได้รับโอกาสนั้น ชีวิตของเธอในแต่ละวันล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความหวังและความสนุกสนานพร้อมกับเพื่อนสนิทที่คอยอยู่เคียงข้างอยู่เสมอ แอนนาเป็นคนที่มอบความสุขให้กับเธอในทุกๆ วันจนทำให้เธอนั้นอดจะคิดถึงเพื่อนไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงยินดีที่เพื่อนของเธอนั้นสามารถหลบหนีทหารไปได้พ้น
แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะสุดท้ายทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้งในค่ายกักกัน แต่การที่เพื่อนรักทั้งสองคนมาพบกันในยามที่ยากลำบากเช่นนี้ไม่สดใสเหมือนเดิมอีกต่อไป และมันอาจจะหมายถึงวาระสุดท้ายที่ใกล้เข้ามาทุกที ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องสะสางทุกสิ่งที่ค้างคาไว้ในใจให้หมดไปก่อนที่จะไม่ได้รับโอกาสนั้น
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง MY BEST FRIEND ANNE FRANK
MY BEST FRIEND ANNE FRANK เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยังคงทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจแม้ว่าเราจะเคยรับชมภาพยนตร์แนวนี้มามากแค่ไหนก็ตาม ความแตกต่างของภาพยนตร์เรื่องนี้คือพวกเขาไม่ได้เอาบันทึกของแอนนา แฟรงค์มาเล่าซ้ำแต่อย่างใด แต่กลับเสริมเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงผ่านตัวละครเด็กสาวอีกคนที่มีชะตากรรมแทบจะไม่แตกต่างกัน
ภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวแนวดราม่าที่เราตัดสลับ 2 ช่วงเวลาคือในช่วงแรกที่พวกเขาเต็มไปด้วยความสุขและในช่วงหลังที่พวกเขาต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานในค่ายกักกัน มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควรระหว่างความสดใสและความหวังของเด็กสาวความโหดร้ายทารุณที่พวกเธอต้องพบเจอในค่ายกักกันนาซี ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถนำเสนอมุมมองใหม่ที่น่าสนใจได้อย่างยอดเยี่ยมและทำให้เรานั้นได้เห็นมุมมองใหม่ที่ชาวยิวต้องเผชิญในช่วงเวลาวิกฤตของพวกเขา บาคาร่า888
ตัวอย่างหนัง MY BEST FRIEND ANNE FRANK
รีวิว หนัง MY BEST FRIEND ANNE FRANK บางส่วนจาก playinone
ภาพยนตร์ดราม่าปวดใจอันทรงพลังที่สะท้อนระหว่างอันงดงามและความโหดร้ายของประวัติศาสตร์ที่พรากอนาคตของเหล่าหญิงสาว ผ่านการแสดงที่ดีมาก ๆ และการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม แม้จะเนือยอยู่บ้าง แต่มันก็สะเทือนใจและอาจทำให้ร้องไห้ได้ เพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ทำลายชีวิตของคนในประวัติศาสตร์จริง ๆ และหนังก็สื่ออารมณ์และให้ภาพของเหตุการณ์ได้อย่างสมจริงด้วยฝีมือของผู้กำกับฝีมือระดับออสการ์ เบ็น ซอมโบคาร์ต
My Best Friend Anne Frank (แอนน์ แฟรงค์ เพื่อนรัก) ภาพยนตร์ดราม่าสัญชาติเนเธอร์แลนด์ กำกับโดย เบ็น ซอมโบคาร์ต (จากภาพยนตร์ดราม่า “Twin Sisters” ที่เคยเข้าชิงออสการ์ในปี 2002) ดัดแปลงจากหนังสืออิงประวัติศาสตร์แอนน์ แฟรงค์ เด็กหญิงเยอรมันเชื้อสายยิว ที่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1942 เธอหลบซ่อนกองทัพของเยอรมันที่กวาดล้างชาวยิว และเขียนบันทึกก่อนถูกจับไปค่ายกักกัน บันทึกของเธอเป็นงานระดับโลกที่น่าจดจำ หนังได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก ได้รับรางวัล Golden Film ประจำปีของเนเธอร์แลนด์ที่สร้างภาพยนตร์จนประสบความสำเร็จขายตั๋วได้ถึงแสนใบ ก่อนจะลงสตรีมมิ่งของเน็ตฟลิกซ์
สร้างจากเรื่องจริงที่อาจมีการเติมแต่งผ่านตัวฮานนาห์ เพื่อนรักของแอนน์ แฟรงค์ ในปี 1942 มิตรภาพของสาวน้อยอย่างฮานนาห์และแอนน์ แฟรงค์ ที่มีความฝันและอนาคตที่กว้างไกลต้องจบสิ้นเมื่อการมาของสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้พลิกผันชะตากรรมของพวกเขาให้แยกจากกัน กองทัพเยอรมันได้บุกเข้ายึดและจับตัวฮานนาห์และครอบครัวไปไว้ที่ค่ายกักกันและทุกคนกลายเป็นเชลย และอาจกำลังจะถึงวาระสุดท้ายที่รอวันตายอย่างเดียว ฮานนาห์ มองชะตากรรมอันน่าสลดใจ สลับย้อนไปกับช่วงเวลาอันแสนสดใสในช่วงเวลาที่พวกเขายังมีชีวิตและมีทุกสิ่งเป็นของตัวเอง ชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยความหวัง และเพื่อนสนิทที่อยู่ข้างกาย คอยหยอกล้อ พูดคุย มีความสุขราวกับเหมือนมันไม่มีอะไรจะมาพรากพวกเขาได้ แต่เพราะมันเป็นอดีต ความทรงจำอันงดงามที่่อาจหลงเหลือไว้ในใจของฮานนาห์ในช่วงเวลาสุดท้ายของเธอ เมื่อเธอได้พบกับแอนน์ แฟรงค์อีกครั้งหลังจากที่เธอเชื่อว่าแอนน์หนีเธอไป แต่จริง ๆ แล้ว มันอาจเป็นวาระสุดท้ายที่หวนมาบรรจบ เพื่อสะสางสิ่งที่ค้างคาใจให้สิ้นสุด
หนังเล่าเรื่องสไตล์ดราม่าสลับสองช่วงเวลา ช่วงแรกเล่าเรื่องในช่วงที่แฮนนาห์ต้องเผชิญ กับอีกช่วงเล่าช่วงวันวานของแอนน์ แฟรงค์ หนังไม่ได้เล่าผ่านตัวละครที่คนทั่วไปรู้จักอย่าง แอนน์ แฟรงค์ แต่กลับกัน หนังนำเสนอภาพและมุมมองของแฮนนาห์ เพื่อนสนิทของเธอที่มีความหวังและมีความฝัน พร้อม ๆ กับแสดงภาพความโหดร้ายของกองทัพเยอรมันที่กวาดต้อนคนยิวเข้าไปในค่ายกักกันซึ่งน่าจะเป็นมุมมองใหม่ที่น่าสนใจ ในขณะที่ครอบครัวของเธอค่อย ๆ ปลดปล่อยความลับที่สั่นคลอนมิตรภาพของพวกเขา ก่อนที่หนังจะเล่าให้เห็นสภาพของคนเยอรมันในค่ายกักกันที่เราอาจจะเห็นมาแล้วในหนังทำนองนี้ เช่น เด็กชายในชุดนอนลายทาง แต่นี่คือมุมมองของเด็กสาวที่ต้องเข้าไปในสังคมทาสและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต
และหนังก็แสดงความโหดร้ายแบบไม่ต้องมีความรุนแรง แต่ใช้สัญญะและการเล่าของภาพแทน ซึ่งมันชวนหดหู่ใจมาก เมื่อเรื่องนี้คืออ้างอิงจากประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลก 2 เราเห็นมุมมองของคนที่รอวันตายและแทบไม่มีความหวังจะใช้ชีวิต แต่หนังก็พยายามเล่าให้ก่อนหน้าเป็นช่วงเวลาคอเมดี้เล็ก ๆ และออกจะเนือย ๆ เพื่อไม่ให้โทนเรื่องหดหู่ จนกระทั่งช่วงท้ายที่หนังได้เฉลยบางอย่างและทำให้น้ำตาร่วง จนไม่อยากกลับมาดูอีกแล้ว ไม่ใช้เพราะหนังมันแย่ แต่หนังมันโหดร้ายกับชะตากรรมตัวละครของเรื่อง ที่อาจจะปรุงแต่งบ้าง แต่พอภาพรวมแล้ว ไม่แปลกใจเลยทำไมชาวเนเธอร์แลนด์ถึงเทใจให้หนังเรื่องนี้ในปี 2021 และผมก็ค่อนข้างประทับใจมาก แต่ก็คงไม่อยากดูอีกรอบ
ตัวละครถือว่าทำออกมาได้มีสีสัน มีชีวิต จิตใจ เพราะเป็นคนในประวัติศาสตร์จริง ๆ แม้จะมีบางอย่างที่เติมแต่ง ทั้งแฮนนาห์ ตัวละครเอกของเรื่องที่เป็นเหมือนคนนำพาเราไปพบกับเรื่องราวในช่วงชีวิตของเธอและแอนน์ แฟรงค์ ไต่ระดับจากคนที่สับสนในครอบครัวที่ให้เธออยู่ในกฏระเบียบกลายเป็นคนที่พลั้งพลาดทำเรื่องร้ายแรงจนเกือบสาย ทำให้เรารู้สึกทั้งหมั่นไส้ สมน้ำหน้า สงสารและเห็นใจ ในขณะที่แอนน์ แฟรงค์ ตัวละครที่ไม่ได้เป็นโฟกัสหลัก สาวก๋ากั๋นและค่อนข้างจะบ้าผู้ชาย แต่ก็ไม่ค่อยจะเก่งเรื่องปฏิเสธ มีความฝัน เธอมีมุมขี้เล่น มีมุมร่าเริง จนทำให้เราอดเวทนาชะตากรรมในช่วงท้ายที่เป็นภาพสะท้อนวาระชีวิตของเธอที่มากกว่าแค่บันทึกเล่มนึงอันโด่งดัง แต่สะท้อนว่าครั้งหนึ่งเธอและเพื่อนต่างก็เคยมีช่วงเวลาที่เหมือนคนทั่วไปก่อนที่เยอรมันจะมาทำลาย
โดยมีครอบครัวเป็นตัวคอยขับเคลื่อนให้เห็นความวุ่นวายทั้งพ่อของเธอที่เหมือนวางแผนทุกอย่าง แม่ที่กำลังคลอดในช่วงกวาดล้างชาวยิว และกาบิ เด็กสาวตัวน้อยที่ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจชะตากรรมของตัวเอง หนังยังโชว์ความเลวร้ายของกองทัพเยอรมันได้โดยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่พวกมันมา ทำท่าสั่ง ถือปืน และตะโกนโหวกเหวก วางหมาดและคุกคาม เราทั้งขนลุกและก็เคียดแค้นได้เวลาเดียวกัน อยากให้ทุกคนจำไว้ว่า กองทัพของเยอรมันตอนนั้นคือความชั่วร้ายที่กวาดล้างมนุษย์เพื่ออุดมการณ์อันน่าขยะแขยงอย่างไม่ละอายใจ
playinone