| ชื่อเรื่อง | Money Heist Season 5 |
| เรตติ้ง | 8.3 |
| นักแสดง | Úrsula Corberó,Álvaro Morte,Jaime Lorente |
| จำนวนตอน | 5 ตอน |
รีวิวหนัง Money Heist Season 5 Netflix
รีวิวหนัง Money Heist Season 5 Netflix การกลับมาสานต่อความสนุกในการปล้นอีกครั้ง เรื่องราวแนวปล้นอาชญากรรมนั้นเป็นเรื่องราวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมันเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกไปกับการชิงไหวชิงพริบระหว่างผู้ร้ายกับตำรวจ ที่สำคัญเสน่ห์ของมันก็คือทำให้เราสามารถรู้สึกเอาใจช่วยฝั่งผู้ร้ายได้อีกด้วยเวลาที่เล่าถึงเรื่องราวฝั่งผู้ร้ายที่กำลังวางแผนปล้น ซึ่งปกติแล้วโดยส่วนใหญ่คนที่รับชมเรื่องราวนั้นก็มักจะเลือกเชียร์ฝ่ายที่เป็นตัวแทนของธรรมะมากกว่าอธรรม มันจึงไม่น่าแปลกใจนักหากหลายคนจะชื่นชอบเรื่องราวแนวนี้
และหนึ่งในซีรีส์แนวก่ออาชญากรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบน Netflix แถมยังเป็นซีรีส์ Original อีกด้วยนั่นก็คือ Money Heist นั่นเอง ตอกย้ำกระแสความนิยมด้วยการสร้างภาคต่อออกมาจนปัจจุบันได้ดำเนินมาถึง Money Heist Season 5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีความพิเศษของซีซั่นนี้คือจะมีการแบ่งออกเป็น 2 ชุดด้วยการประกอบไปด้วยชุดแรก 5 ตอนส่วนชุดที่ 2 นั้นจะออกในเดือนธันวาคมซึ่งยังไม่ทราบว่ามีกี่ตอนกันแน่
ความโดดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือมันไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องราวการวางแผนปล้นที่เราจะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างกลุ่มก่ออาชญากรรมและตำรวจเท่านั้น แต่มันยังเต็มไปด้วยฉากแอคชั่นที่ยอดเยี่ยมราวกับหนังสงคราม เต็มไปด้วยความรู้ระทึกที่จะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นตลอดการรับชม ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเต็มไปด้วยปริศนามากมายที่ทำให้เรารู้สึกอยากจะติดตามตอนต่อไปว่าจะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง หากใครที่ยังไม่เคยรับชมเราขอแนะนำให้ไปแล้วชนตั้งแต่ซีซั่นแรกจนถึงซีซั่น 5 เลย
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Money Heist Season 5
Money Heist Season 5 จะยังคงเล่าถึงเรื่องราวการปล้นธนาคารกลางในประเทศสเปนเหมือนเดิม ตอนนี้พวกเขานั้นยังคงติดอยู่ในธนาคารกลางแห่งชาติของสเปนติดต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 100 ชั่วโมงแล้ว ระหว่างการปล้นในครั้งนี้พวกเขาต้องพบเจอสิ่งต่างๆ มากมายที่ทำให้เพื่อนของเขาหลายคนต้องได้รับอันตรายหรือตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
แต่ถึงอย่างนั้นในที่สุดพวกเขาก็สามารถช่วยลิสบอนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็ต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความดำมืดอีกครั้งแถมมันยังมาพร้อมกับการสูญเสียสมาชิก 1 คนไปอย่างไม่มีวันกลับที่ทำให้สมาชิกที่เหลือนั้นต้องเสียใจแถมยังสูญเสียกำลังใจในการสู้ต่อไปอีกด้วย
ในขณะเดียวกันสถานการณ์ภายนอกธนาคารยิ่งแย่มากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อสารวัตรเซียร์ร่าทำการจับตัวศาสตราจารย์ไป เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของทีมเลยทีเดียวที่พวกเขานั้นเสียท่าแถมยังไม่มีแผนในหัวอีกด้วยว่าจะทำอย่างไรต่อไปและจะหนีได้อย่างไร
สถานะการดำเนินมาจนถึงจุดที่เลวร้ายมากที่สุดจนไม่มีใครว่ามันจะสามารถเลวร้ายไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว แต่พวกเขาก็คิดผิดเมื่อกองทัพได้ทำการส่งทหารฝีมือดีเข้ามาจัดการพวกเขาถึงในธนาคาร ถือได้ว่าเป็นศัตรูที่เต็มไปด้วยความอันตรายมากกว่าศัตรูที่ว่าเขาเคยเจอมาตลอดทั้งชีวิตก็ว่าได้ มีใน Season 5 นี้จะเป็นจุดจบของเรื่องราวการปล้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศสเปน และมันก็ได้กลายมาเป็นการชิงไหวชิงพริบในสงครามที่เต็มไปด้วยความร้อนระอุในที่สุด
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Money Heist Season 5
Money Heist Season 5 เป็นการดำเนินมาจนถึงบทสรุปการปล้นครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศสเปนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าในปัจจุบันจะออกมาเพียงแค่ชุดแรก 5 ตอนเท่านั้นแต่สามารถบอกได้เลยว่าความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้ยังคงความสม่ำเสมอเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือมันไม่ได้เพียงแค่สนุกสนานจากการชิงไหวชิงพริบใช้สมองเพียงเท่านั้น แต่ด้วยความที่มีการเพิ่มศัตรูเป็นกองทัพเข้ามาทำให้เราจะได้เห็นฉากการต่อสู้เหมือนกับภาพยนตร์สงครามก็ไม่ปาน สำหรับใครที่อยากจะคิดว่าการชิงไหวชิงพริบรู้สึกว่าน่าเบื่อ Season นี้ก็จะมีอะไรให้คุณรู้สึกสนุกสนานได้ขึ้นมาบ้าง
แต่อย่างไรก็ตามจุดด้อยของซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมนั่นก็คือความไม่สมเหตุสมผลที่ยังคงไม่ได้มีการอธิบายให้เราได้เข้าใจชัด 100% ปัญหาและหลายครั้งที่ความไม่สมเหตุสมผลของมันก็ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปในอดีตของแต่ละตัวละครเพื่อเพิ่มความดราม่าให้กับเรื่องราว สำหรับใครที่ชื่นชอบความสนุกสนานในการปล้นหรือการต่อสู้ก็อาจจะรู้สึกว่าส่วนนี้ค่อนข้างที่จะน่าเบื่อได้เช่นเดียวกัน
ถึงอย่างนั้นด้วยความที่มันเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทยทำให้นอกจากจะมีซับภาษาไทยแล้วยังมีพากย์ไทยซึ่งเสียงพากย์ก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี มีการเปิดตัวละครใหม่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก มีความจริงจังของเนื้อเรื่องมากขึ้นถึงขั้นที่ต้องมีการสูญเสียตัวละครทั้งสองฝ่ายเลยทีเดียว ที่สำคัญคือด้วยความที่มันเป็นภาคจบทำให้อะไรที่เราค้างคาใจมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ เราก็จะได้รับรู้เรื่องราวในส่วนนี้มากยิ่งขึ้นไปด้วย