ชื่อเรื่อง | Major Grom |
เรตติ้ง | 6.3 |
นักแสดง | Tikhon Zhiznevskiy,Lyubov Aksyonova,Sergei Goroshko |
จำนวนตอน | 2.16 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง Major Grom Netflix
รีวิวหนัง Major Grom Netflix MajorGrom Plague Doctor ภาพยนตร์ฮีโร่สไตล์รัสเซียที่เป็นไปด้วยความดุเดือดเหนือความคาดหมาย โหดสัสรัสเซียนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นคำพูดที่ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย ประเทศรัสเซียนั้นเป็นประเทศที่ไปสุดทุกทาง เป็นประเทศที่หนาวที่สุด เหล้าแรงที่สุด เรียกได้ว่าเป็นประเทศแห่งความที่สุดก็ว่าได้ ดังนั้นพอประเทศนี้ทำภาพยนตร์ฮีโร่ต้นตำรับของตัวเองขึ้นมาแน่นอนว่ามันไปสุดกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้อย่างแน่นอน สำหรับใครที่อยากจะรับชมภาพยนตร์แนวฮีโร่ในมุมมองใหม่ๆ และกลิ่นอายที่แตกต่างไปจากเดิมเราขอแนะนำภาพยนตร์ฮีโร่สไตล์รัสเซียเรื่อง Major Grom: Plague Doctor
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนในชื่อเดียวกันซึ่งเป็นผลงานของนักเขียนการ์ตูนชื่อดังในประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันพิมพ์ออกมาแล้วทั้งหมดถึง 6 ภาคจำนวน 50 เล่ม ดังนั้นหากภาพยนตร์ภาคนี้ประสบความสำเร็จก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นภาคต่อออกมามากมายเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นนี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่รัสเซียมีการนำเอาการ์ตูนรัสเซียมาดัดแปลงให้กลายเป็นภาพยนตร์อีกด้วยมันจึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
แต่กว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะถ่ายทำสำเร็จและได้ออกฉายก็ต้องประสบกับปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนทีมงานใหม่ การเปลี่ยนโครงเรื่องใหม่ตั้งแต่ต้น ทำให้การถ่ายทำกินเวลายาวนานหลายปีตั้งแต่ปี 2017 กว่าจะออกฉายได้ก็ปาเข้าไปปี 2021 แล้ว สำหรับใครที่กังวลว่าเราจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จากที่ไหนเพราะมันเป็นภาพยนตร์รัสเซีย ไม่ต้องกังวลไปเพราะ Netflix ได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์มาใช้บนระบบ Streaming เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักหรือได้รับกระแสการพูดถึงในวงกว้าง แต่มันก็ค่อยๆ ไต่อันดับจนกลายเป็น 10 ภาพยนตร์ยอดนิยมบน Netflix ได้สำเร็จในที่สุดอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองรับชมกัน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Major Grom: Plague Doctor
Major Grom: Plague Doctor จะเล่าถึงเรื่องราวของตำรวจหนุ่มผู้หนึ่งที่ชื่อว่าอีกอร์ เขาเป็นตำรวจเลือดร้อนที่เต็มไปด้วยความบ้าระห่ำ ทำให้ชื่อเสียงของเขาค่อนข้างจะฉาวโฉเลยทีเดียวว่าเป็นพวกหัวแข็งแถมยังมีทัศนคติที่ไม่ค่อยจะประนีประนอมกับเหล่าอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมในทุกรูปแบบอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นตำรวจที่มีความซื่อสัตย์และเที่ยงตรง ตั้งใจทำงานและอุทิศตนเพื่อปกป้องทุกคนให้ปลอดภัย
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเมืองที่เขาอาศัยอยู่นั้นผู้คนมากมายได้ล้มป่วยลงอย่างเป็นปริศนาด้วยโรคระบาดที่ไม่มีใครทราบที่มาที่ไป เขาได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสวนสอบสวนการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวว่าเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่จนทำให้เขาได้รู้จักเข้ากับหมอกาฬโรค คนผู้นี้ไม่ใช่หมอกาฬโรคที่แท้จริงแต่เขาสวมหน้ากากนกเหมือนกับหมอกาฬโรคสมัยที่มีการละโรคแพร่ระบาดในโลก คนผู้นี้ต้องการที่จะตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นศาลเตี้ยทำตัวเป็นโรบินฮูดคอยกำจัดเหล่าคนรวยที่หลงระเริงไปกับอำนาจของเงินจนทำให้ทำเรื่องเลวร้ายมากมายในสังคม
แม้ว่าหลายคนจะชื่นชอบที่หมอกาฬโรคผู้นี้ออกมาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยคอยตัดสินคนชั่วที่เต็มไปด้วยอำนาจเงินที่ถึงแม้ว่าตำรวจหรือแม้แต่ศาลเองก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้อย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เขาทำก็เป็นสิ่งผิดกฎหมายแถมยังเป็นต้นต่อการเกิดโรคระบาดที่แพร่กระจายอยู่ในตอนนี้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้อีกอร์จึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้สถานการณ์กลับมาสงบตามเดิมให้สำเร็จ
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Major Grom: Plague Doctor
Major Grom: Plague Doctor เป็นภาพยนตร์ที่มีความแปลกใหม่ในการเล่าเรื่องไม่น้อยเลยทีเดียว พระเอกของเราเปิดตัวมาด้วยบทบาทตำรวจสุดบ้าระห่ำที่เต็มไปด้วยข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับความไม่ประนีประนอมและเด็ดขาดของตนเอง กับตัวร้ายที่ทำตัวเป็นโรบินฮู้ดคอยตัดสินคนชั่วแล้วจัดการด้วยตัวเอง ความย้อนแย้งนี้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวร้ายดูเหมือนจะเป็นพระเอกมากกว่าพระเอกเองเสียอีก เมื่อรับชมไปสักพักหนึ่งเราจะสามารถแบ่งได้อย่างชัดเจนว่าอะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว
เพราะฉะนั้นในช่วงแรกที่เปิดตัวพระเอกออกมาหลายคนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเขาเท่าไหร่นัก แต่ขอให้เปิดใจรับชมต่อไปเรื่อยๆ ก่อนเพราะภาพยนตร์จะพาคุณไปรู้จักกับเขาให้มากขึ้นและคุณจะต้องตกหลุมรักเขาในภายหลังอย่างแน่นอน
โดยรวมแล้วภาพยนตร์สามารถทำออกมาได้ดีในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิตที่ทำให้งานภาพและเสียงออกมามีความสวยงามและมีคุณภาพ นักแสดงที่สามารถถ่ายทอดบทบาทได้อย่างยอดเยี่ยมและมีเอกลักษณ์อย่างโดดเด่น การเล่าเรื่องราวที่ค่อนข้างเข้าใจง่ายแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความสะใจ มีประเด็นให้เราได้เอาไปขบคิดต่อมากมายแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกปวดหัวแต่อย่างใดขณะรับชม
แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์รัสเซีย ทำให้มันมีความรัสเซียแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัวอักษร ภาษาภายในภาพยนตร์ ทุกอย่างไม่มีภาษาอังกฤษเข้ามาผสมเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จะทำให้คุณได้รับวัฒนธรรมแบบรัสเซียอย่างเต็มที่ และไม่ต้องกังวลไปเพราะ Netflix ได้มีการทำซับภาษาไทยให้เราอ่านกันแบบเข้าใจง่ายอย่างแน่นอน
ตัวอย่างหนัง Major Grom
รีวิว หนัง Major Grom บางส่วนจาก beartai
Major Grom: Plague Doctor (Майор Гром: Чумной Доктор) หรือในชื่อไทยคือ “ฮีโรปราบวายร้าย” (ใครคิดชื่อไทยนะ ช่างตรงตัวมากจนเราสะดุด ต้องกดดูเลยทีเดียว 555) เป็นภาพยนตร์แอ็กชันรัสเซีย กำกับโดยโอเล็ก ทรอฟิม (Oleg Trofim) สร้างจากซีรีส์หนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกัน ผลงานของ อาร์ตยอม กาเบรลยานอฟ (Artyom Gabrelyanov) ที่ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์รัสเซีย Bubble Comics โดยฉบับการ์ตูนมีความยาวทั้งสิ้น 50 เล่ม 6 ภาค (โอ้ แสดงว่าเราจะได้รอดูภาคอื่นกันอีกยาว ๆ สินะ แต่จบไม่ค้าง ดูเลยได้ไม่ต้องรอ) และนับเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกที่สร้างจากการ์ตูนรัสเซียก็ว่าได้
สำหรับจุดตั้งต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 มีการฉายตัวอย่างภาพยนตร์ในงาน IgroMir / Comic-Con Russia 2017 แต่เพราะประสบปัญหาระหว่างการผลิต ทำให้มีการเปลี่ยนทีมงานใหม่ และดำเนินโครงการใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง จนในที่สุด ก็ได้มีรอบฉายปฐมทัศน์ในวันที่ 25 มีนาคม 2021 ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเพิ่งจะลงระบบสตรีมมิง Netflix ในบ้านเรา เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
แม้จะไม่ได้มีการโปรโมตให้ครึกโครมเหมือนภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่ลงในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ไม่นานนักภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เข้าสู่ 10 อันดับยอดนิยมของ Netflix อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่เรากำลังห่อเหี่ยวหลังจากชม Resident Evil: infinite darkness เพราะการเชื่อมโยงลำดับเรื่องที่น่าผิดหวังสุด ๆ ก็เลยอยากชมภาพยนตร์แอ็กชันสนุกสนานสักเรื่องเพื่อล้างตาอยู่พอดี และเรื่องนี้ก็โผล่เข้ามาในสายตา ตัวอย่างก็ดูน่าดูดีนะ น่าจะคลายเครียดได้ดีแหละ อย่ากระนั้นเลย กดเข้าไปชมกันหน่อยดีกว่า
แค่ภาพเปิดมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จัดเต็มความเป็นรัสเซียมาอย่างเต็มที่ ทั้งการเลือกใช้ตัวอักษรทั้งชื่อหนังและเครดิตที่ไม่มีภาษาอังกฤษปนแม้เพียงนิด ฉากไล่ล่าดุเดือดเล่าเรื่องรวดเร็วกระแทกเข้าเบ้าตาทันที และแม้จะมีการตัดต่อสลับไปมา แต่ก็ดูได้เพลินและดูรู้เรื่องเข้าใจได้ง่าย แถมยังรัวหมัดต่อเนื่องเดินเรื่องรวดเร็วทันใจ สื่อความได้ชัดคมกระชับตามสไตล์รัสเซีย
และสำหรับคนที่เคยไปเยือนรัสเซียมาก่อน แค่ห้านาทีแรกก็จะรู้ได้ทันทีว่าโปรดักชั่นเรื่องนี้จัดเต็มมากๆ เพราะเล่นไปถ่ายจุดที่เป็นศูนย์กลางนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และดึงจุดเด่นของสถานที่เด่น ๆ ของเมืองมาใช้ได้เป็นอย่างดี
อีกสิ่งที่เรารู้สึกว่าถ้าเติมให้เต็มได้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะปังปุริเย่มากกว่านี้ นั่นคือการเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่างๆ ในฝั่งที่เป็นมวลหมู่มิตรของพระเอก ที่มันมีแค่เท่าที่จำเป็นต่อการเล่าเรื่องเสียจนมันดูห้วนเกินไปสักหน่อย รู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ ทั้งที่น่าจะทำได้คมกว่านี้ได้อีกนิด ถ้าเกลี่ยจังหวะการเล่าเรื่องไปยังตัวละครเล่านี้เพิ่ม ทำให้เห็นจังหวะ และความค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงของความคิดพระเอกได้มากกว่านี้ น่าจะดีมาก ๆ เลย
สรุป ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนวิธีการเล่าเรื่องซึ่งคนรัสเซียชื่นชอบได้ค่อนข้างชัดเจน (เดินเรื่องเร็ว ตัดต่อหนัก จะดาร์กยังไงก็ขอแอบยิงมุกสักหน่อย) เราคนไทยอาจจะดูแล้วรู้สึกตะหงิด ๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าสนุก เนื้อหาแน่น สะใจดีนะ ตื่นตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอน เชิญไปยลกันได้
beartai