ชื่อเรื่อง | Hidden Figures |
เรตติ้ง | 7.8 |
นักแสดง | Taraji P. Henson,Kirsten Dunst,Kevin Costner |
จำนวนตอน | 2.07 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง Hidden Figures
รีวิวหนัง Hidden Figures ภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการทำงาน ในปัจจุบันสังคมทั่วทั้งโลกมีการตระหนักถึงปัญหาการเหยียดสีผิวกันมากยิ่งขึ้น เราทราบดีว่าไม่ว่าจะสีผิวไหนทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนเหมือนกัน มีลักษณะทางกายภาพรวมไปถึงสติปัญญาเช่นเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าจะสีผิวไหนก็ควรที่จะได้รับอิสรภาพในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ทุกคนควรได้เป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเป็น ควรได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำหากไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าย้อนกลับไปในยุค 70 อเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีการแบ่งแยกสีผิวและมีการจำกัดโอกาสในการทำอาชีพของคนผิวสีอย่างชัดเจน
ประเด็นเรื่องการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับประเด็นสีผิวเท่านั้น ลองนึกถึงสภาพสังคมออฟฟิศมนุษย์เงินเดือนในประเทศไทย เราที่เป็นคนไทยเหมือนกันก็ยังคงพบเห็นการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันได้อย่างชัดเจน สิ่งเหล่านี้บั่นทอนกำลังใจและแรงบันดาลใจของคนทำงานที่ควรจะมีความกระปรี้กระเป๋าและเดินทางไปทำงานอย่างมีความสุข กลับกลายเป็นซอมบี้ที่ตื่นเช้ามาก็ไปทำงานตกเย็นมาก็เลิกงานกลับบ้าน ใช้ชีวิตวนเวียนเหมือนเดิมไม่มีอะไรน่าสนใจ
หากคุณเริ่มรู้สึกว่าตนเองกำลังจะกลายร่างเป็นซอมบี้ที่ใช้ชีวิตเหมือนกันในแต่ละวัน เราขอแนะนำให้คุณลองรับชมภาพยนตร์เรื่อง Hidden Figures ภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้กับคุณได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นมันยังช่วยให้คุณสามารถก้าวข้ามเงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ ได้อีกด้วย เพราะเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าถึงหญิงสาวผิวสี 3 คนในยุค 70 ที่ทำงานในองค์การนาซ่า ลองนึกสภาพดูว่าในสังคมที่เหยียดสีผิวอยู่แล้ว แถมพวกเธอยังเป็นผู้หญิงที่อยู่ในองค์กรที่เต็มไปด้วยคนผิวขาวมากความสามารถ พวกเธอจะเอาตัวรอดในสังคมการทำงานอย่างไร
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Hidden Figures
Hidden Figures จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวผิวสี 3 คนประกอบไปด้วยแคทเธอรีน โดโรธี และแมร์รี่ แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงแถมยังเป็นคนผิวสีแต่พวกเธอก็มีความสามารถมากพอที่จะเข้าไปทำงานในองค์กรระดับโลกอย่างนาซ่าได้สำเร็จ แต่เสียดายที่พวกเธอเข้าไปในยุค 70 ที่ในอเมริกานั้นยังคงมีประเด็นการเหยียดสีผิวและการจำกัดโอกาสในการทำงานของคนผิวสีอย่างชัดเจน พวกเธอจึงต้องพยายามทุกหนทางเพื่อที่จะพิสูจน์ความสามารถว่าพวกเธอนั้นก็เหมือนกับคนทำงานทั่วไปที่มีความสามารถมากพอและเหมาะสมที่จะอยู่ในองค์การดังกล่าว แม้ว่าทั้งองค์การนั้นจะเต็มไปด้วยคนผิวขาวก็ตาม
แคทเธอรีนนั้นเป็นคนที่มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์ในระดับอัจฉริยะ แต่เธอกลับต้องทำงานให้กับแฮริสันซึ่งเป็นเจ้านายสุดโหดที่ไม่มีวันพอใจกับผลงานของใครแบบง่ายๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องพิสูจน์ความสามารถของตนเองว่าเธอเป็นคนที่มีความสามารถและยังเก่งกว่าเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชายและมีผิวสีขาวอีก ในขณะเดียวกันแมร์รี่นั้นต้องการที่จะเป็นวิศวกร แต่ในยุคนั้นวิศวกรหญิงเป็นเรื่องตลกเพราะไม่มีใครเคยเป็นมาก่อน แถมเธอยังเป็นผู้หญิงผิวสีอีกด้วย ทำให้เธอจำเป็นจะต้องลงเรียนพิเศษเพิ่มเติมในโรงเรียนที่มีการแบ่งแยกสีผิวอย่างชัดเจน ส่วนโดโรธีนั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในด้านเครื่องจักรและคอมพิวเตอร์ แต่อุปสรรคของเธอก็คือหัวหน้าแผนกที่ทำให้เธอไม่ได้รับเงินเดือนรวมไปถึงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
อุปสรรคมากมายได้ถาโถมเข้าสู่หญิงสาว 3 คนนี้เพียงเพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงและเป็นคนผิวสี ทั้งที่ความจริงแล้วเราต่างรู้ดีว่าพวกเธอนั้นมีความสามารถและเหมาะสมสำหรับตำแหน่งที่พวกเธอควรจะได้รับ แต่ด้วยยุคสมัยที่ยังไม่มีความตระหนักเรื่องการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันทุกสีผิวทำให้พวกเธอนั้นต้องต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นเพื่อให้ตนเองได้รับในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และพิสูจน์ว่าพวกเธอนั้นเหมาะสมมากพอที่จะได้รับงานในองค์การนาซ่า
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Hidden Figures
Hidden Figures เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนประเด็นเรื่องความเท่าเทียมกันออกมาได้อย่างเจ็บแสบและสมจริงเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่แม้ว่าเราจะเกิดไม่ทันในยุค 70 ที่มีประเด็นเรื่องการเหยียดสีผิวอย่างชัดเจน แถมเราเองก็ไม่ได้เป็นคนผิวสีแต่อย่างใด ทำงานอยู่ในสังคมที่ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยเหมือนกันก็รู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้เป็นอย่างดี เพราะเราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมนั้นมีอยู่ทั่วทุกแห่งในสังคมและทุกคนล้วนแล้วแต่เคยประสบพบเจอมาก่อน
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณได้เห็นถึงการต่อสู้ของเหล่าหญิงสาวที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมายไม่ว่าจะเป็นเพศหรือสีผิว โอกาสทางการเรียนและการทำงาน แต่พวกเธอก็ได้พิสูจน์ความสามารถอย่างทุ่มเท จนสุดท้ายแล้วทุกสิ่งที่พวกเธอได้ทุ่มเทลงไปนั้นก็สัมฤทธิ์ผลในที่สุด ไม่มีอะไรที่พวกเธอได้มาง่ายๆ แต่พวกเธอก็ไม่เคยยอมแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ตลอดการรับชมนั้นภาพยนตร์จะทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยตัวละครผิวสีตลอดเวลา เรื่องราวเต็มไปด้วยความเข้มข้นและความสนุกสนานจนทำให้เรารู้สึกไม่อยากจะละสายตา หากใครที่กำลังรู้สึกหมดไฟในการทำงานเราอยากจะแนะนำให้ลองรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ดู เพราะมันอาจจะจุดไฟในตัวคุณให้ขึ้นมาลุกโชนอีกครั้งก็เป็นได้
ตัวอย่างหนัง Hidden Figures
รีวิว หนัง Hidden Figures บางส่วนจาก beartai
Hidden Figures ดัดแปลงมาจากนิยายที่อ้างอิงจากเรื่องจริงในชื่อเดียวกัน เขียนโดย มาร์โกต์ ลี เช็ตเทอร์ลีย์ เป็นนิยายที่เพิ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2016 ติดอันดับ 1 ของนิวยอร์คไทม์เบสต์เซลเลอร์ และตัวมาร์โกต์ เองก็มาเป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมของเรื่องนี้ร่วมกับ ฟาเรลล์ วิลเลียมส์ ศิลปินเพลงชื่อดังที่ทำดนตรีประกอบให้กับหนังด้วย
มาร์โกต์ เธอไปทราบเรื่องราวของ 3 สาวแห่งนาซ่านี้จากพ่อเธอที่เคยทำงานอยู่นาซ่า แล้วก็รู้สึกทึ่งว่าทำไมเรื่องราวดีงามของทั้ง 3 คนนี้จึงไม่เคยถูกพูดถึง ก็เลยทั้งศึกษา ค้นคว้าและสัมภาษณ์จนออกมาเป็นนิยายขายดีและถูกดัดแปลงออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ได้เสียงตอบรับดีทั้งด้านรายได้ และความพึงพอใจจากนักวิจารณ์ ได้เข้าชิงถึง 3 ออสการ์ซึ่งรวมถึง “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” ด้วย และส่งให้ ออคทาเวีย สเปนเซอร์ เข้าชิงออสการ์สมทบหญิงเป็นครั้งที่ 2
รวมไปถึงรางวัล “บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม” ที่ผู้กำกับ ธีโอดอร์ เมลฟี ลงมาเขียนเองร่วมกับ แอลลิสัน ชโรเดอร์ หน้าใหม่จากวงการทีวีซีรีส์ที่มาจับงานบทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกก็ได้เข้าชิงออสการ์เลย และเชื่อว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้กำกับ ธีโอดอร์ เมลฟี ที่สร้างชื่อเสียงมาจากหนัง St.vincent ได้เข้าชิง 2 ลูกโลกทองคำปี 2014 จนได้รับข้อเสนอให้ไปกำกับ “Spiderman” แต่ ธีโอดอร์ กลับเลือกหนังฟอร์มเล็กอย่าง Hidden Figures แทน
แม้เป็นหนังประวัติศาสตร์ยุคต้น 60s แต่เนื้อหากลับเล่าได้อย่างน่าสนใจ จับเรื่องราวของ 3 สาวผิวสี แคทเธอรีน จอห์นสัน , โดโรธี วอห์น และ แมรี่ แจ๊คสัน หนังจะเน้นหนักไปที่ตัว แคทเธอรีน จอห์นสัน เป็นหลัก บทนี้ได้ ทาราจี พี. เฮนสัน ดาราที่เล่นอยู่แต่หนังคนดำเป็นหลัก มีเรื่องนี้ล่ะที่ได้ส่งเธอในบทนำอย่างจริงจัง ทาราจี ได้เข้าพบ แคทเธอรีน ตัวจริงในวัย 98 และได้รับการเห็นชอบจากเจ้าตัวว่าให้ทาราจีมารับบทเป็นตัวเธอ
หนังปูพื้นชีวิตของแคทเธอรีน ว่ามีแววอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก และได้ครอบครัวและครูที่ดีที่คอยสนับสนุนให้เธอได้รับการศึกษาที่ดี ในยุคที่สังคมอเมริกันยังเดียดฉันท์ผิวสีอย่างรุนแรง สองชั่วโมงของหนังเล่าชีวิตการทำงานของ 3 สาวในตำแหน่ง “Computer” หรือ “คณิตกร” เนี่ยละครับความรู้ใหม่ว่าในอดีต คอมพิวเตอร์ คือชื่อตำแหน่งหน้าที่ของมนุษย์ที่คำนวณตัวเลขกันเป็นหลัก ก่อนที่ IBM จะผลิตคอมพิวเตอร์ออกมาเป็นเครื่องจักรทำหน้าที่แทน
Hidden Figure เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าติดตาม ได้เห็นการทำงานที่น่าทึ่งของนาซ่าในยุคเริ่มต้น ไม่น่าเชื่อว่าการส่งยานอวกาศไปดวงจันทร์นั้นก็เริ่มต้นจากการคำนวณด้วยการเขียนชอล์คบนกระดานดำ เป็นหนังที่เพียบพร้อมครับ บทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมสมควรที่ได้เข้าชิงออสการ์ ได้ทั้งสาระความรู้บนเส้นเรื่องที่เล่าได้อย่างบันเทิง ครบทั้งดราม่าซาบซึ้ง มุกที่หัวเราะดัง ๆ ได้หลายครั้ง การแสดงที่เปอร์เฟ็คต์ในทุก ๆ ตัวละคร จบด้วยความรู้สึกอิ่มเอมกับภาพตัวตนจริง ๆ ของทั้ง 3 สาวที่ยังมีชีวิตอยู่ในวันนี้ที่โลกได้รู้จักพวกเธอเสียที
beartai