ชื่อเรื่องDEATH ON THE NILE
เรตติ้ง7.0
นักแสดงGal Gadot
จำนวนตอน2.07 ชั่วโมง

รีวิวหนัง DEATH ON THE NILE

รีวิวหนัง DEATH ON THE NILE ภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนหาตัวฆาตกรโดยนักสืบแอร์กูล ปัวโรต์ บนโลกใบนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนเป็นจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามและกลายเป็นที่นิยมไปทั่วทั้งโลกไม่ว่าจะเป็นโคนัน ยอดนักสืบจิ๋ว เชอร์ล็อค โฮล์มส์ หรือที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือแอร์กูล ปัวโรต์ นักสืบชื่อดังจากเบลเยี่ยมที่โด่งดังในฐานะของตัวละครในนวนิยายสืบสวนสอบสวนชื่อดังของนักเขียนหญิงมากความสามารถอย่างอากาธา คริสตี้ นวนิยายเรื่องนี้ของเธอนั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงามและยังได้รับการนำเอามาดัดแปลงเป็นสื่อบันเทิงต่างๆ มากมายหลายต่อหลายครั้งไม่เว้นแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ตาม

มีการนำเอาเรื่องราวในนวนิยายของคริสตี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์และประสบความสำเร็จอย่างงดงามอย่าง MURDER ON THE ORIENT EXPRESS ในปี 2017 หลังจากที่ทำรายได้ไปได้มหาศาลก็ได้มีการสร้างภาคต่อออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเตรียมออกฉายในปี 2022 นี้นั่นก็คือ DEATH ON THE NILE โดยจะเล่าถึงเรื่องราวปริศนาการก่อเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นบนเรือสำราญกลางแม่น้ำไนล์ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา 

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่นำเอานวนิยายอีก 1 เล่มที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังเป็นอย่างมากของพริตตี้มาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่อย่างใดเพราะในปี 1978 ก็ได้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วแถมในปี 2004 ก็ได้มีการทำเป็นภาพยนตร์ฉายบนโทรทัศน์อีกด้วย ไม่ต้องสืบเลยว่าเรื่องราวดังกล่าวได้รับความนิยมและโด่งดังมากแค่ไหน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมบนลุ่มแม่น้ำไนล์กันว่ามันจะเต็มไปด้วยปริศนาและความสนุกสนานแค่ไหน 

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง DEATH ON THE NILE

DEATH ON THE NILE เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของนักสืบชาวเบลเยี่ยมชื่อดังอย่างแอร์กูล ปัวโรต์ เขานั้นต้องการจะเดินทางมาพักผ่อนในอียิปต์หลังจากต้องเผชิญกับการสืบสวนสอบสวนคดีมากมายจนทำให้อยากหยุดงานและหนีมาพักผ่อนแบบสบายๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเพราะในขณะที่เขากำลังเยี่ยมชมพีระมิดกีซ่าอย่างเพลิดเพลินกลับมีเศรษฐินีสาวไฮโซอย่างลินเน็ตเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา เธอนั้นเป็นเศรษฐีสาวที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปร่างหน้าตาและทรัพย์สินเงินทองมากมาย ซึ่งนั้นทำให้คนที่จ้องจะเล่นงานเธอเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก 

เธอเพิ่งแต่งงานใหม่และออกมาเฉลิมฉลองบนเรือสำราญที่จะล่องไปตามแม่น้ำไนล์ ด้วยเหตุนี้ปัวโรต์จึงได้เดินทางไปยังเมืองอัสวานพร้อมกับไซม่อน ดอยล์นายหน้าขายที่ผู้เป็นสามีของลินเน็ตเพื่อคอยคุ้มกันความปลอดภัยให้กับทั้งคู่จากหญิงสาวที่มีชื่อว่าแจ็คเกอรีน หญิงสาวผู้เป็นอดีตคนรักของไซม่อน และยังมีอดีตเพื่อนรักเพื่อนร้ายของเศรษฐีสาวที่กำลังถูกสงสัยว่าอาจจะมีการตามมาก่อเรื่องเพื่อล้างแค้นระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังฮันนีมูนบนเรือสำราญสุดหรูหรา 

แต่หลังจากที่นักสืบได้ร่วมงานที่จัดขึ้นบนเรือสำราญแล้วเขาก็พบว่ามันมีอะไรที่ผิดปกติไปจริงแถมมันยังเกิดเหตุคดีฆาตกรรมขึ้นจริงอีกด้วย การฮันนีมูนนองเลือดในครั้งนี้ใครกลายเป็นเหยื่อและใครที่เป็นผู้ต้องสงสัยบ้างเราต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง DEATH ON THE NILE

DEATH ON THE NILE เป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนจากนวนิยายชื่อดังนั้นแน่นอนว่าหากใครที่เคยอ่านนวนิยายมาก่อนก็จะรู้ดีว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ความสนุกในการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ถึงแม้ว่าคุณจะอ่านนวนิยายมาแล้วก็คือการได้เห็นภาพที่เต็มไปด้วยความสวยงามและหรูหราท่ามกลางแม่น้ำไนล์ ภาพยนตร์ยังคงสไตล์การสืบสวนสอบสวนตามแบบนวนิยายนั่นก็คือมีการเกิดเหตุคดีฆาตกรรมขึ้นมาบนห้องปิดตายซึ่งในครั้งนี้ก็คือเรือสำราญ ทุกคนบนเรือนั้นสามารถเป็นผู้ต้องสงสัยได้ทั้งสิ้นและมันก็ทำให้เรานั้นอยากติดตามไปจนจบว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกรเนื่องจากในช่วงแรกนั้นเราแทบจะเดาไม่ถูกเลยว่าทิศทางของเรื่องราวจะเป็นไปอย่างไร ไม่ว่าใครก็น่าสงสัยทั้งสิ้นและล้วนแล้วแต่มีเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นของตัวเองที่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่คดีได้ทั้งหมด

ดังนั้นลักษณะการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้จะยังคงมีกลิ่นอายของภาพยนตร์เรื่อง MURDER ON THE ORIENT EXPRESS แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงแต่เปลี่ยนจากรถไฟไปเป็นเรือสำราญเท่านั้น แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนก็คือจังหวะการดำเนินเรื่องราวที่จะค่อยๆ เล่ามากกว่าเปิดมาแล้วเจอคดีฆาตกรรมเลย การที่ภาพยนตร์พาเราไปทำความรู้จักแต่ละตัวละครก่อนเกิดคดีฆาตกรรมก็ถือว่ามีความน่าสนใจเพราะมันช่วยให้เราได้มีข้อมูลในการวิเคราะห์หาตัวฆาตกรมากยิ่งขึ้น การนำเสนองานภาพมีความสวยแต่แปลกตาเหมือนกับงานศิลปะ นักแสดงแต่ละคนก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและมีความสมจริง 

แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้คนร้ายไม่ได้มีปมอะไรแอบซ่อนภายในใจเยอะมากมายเพียงแต่มีความชาญฉลาดที่จะใช้วิธีการฆาตกรรมด้วยการหันเหความสนใจ มีการนำเอาประเด็นเรื่องความรักและมิตรภาพมาผูกเชื่อมโยงเอาไว้กันได้อย่างพอดิบพอดี แถมยังมีกลิ่นอายความสยองขวัญเล็กน้อยอีกด้วย โดยรวมถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับการรับชมในโรงภาพยนตร์ เว็บแทงบอล

ตัวอย่างหนัง DEATH ON THE NILE

รีวิว หนัง DEATH ON THE NILE บางส่วนจาก beartai

5 ปีหลังจากที่โลกได้รู้จักกับ ‘แอร์กูล ปัวโรต์’ นักสืบผู้โด่งดังชาวเบลเยียม ที่เคยพาเราเข้าไปร่วมไขคดีปริศนาฆาตกรรมสุดซับซ้อนซ่อนเงื่อนและแสนจะโหดเหี้ยมบนรถไฟตกรางกลางพายุหิมะมาแล้วใน ‘Murder on the Orient Express’ (2017) มาแล้ว

ในปีนี้ ‘เคนเน็ธ บรานาห์’ (Kenneth Branagh) ผู้กำกับและนักแสดงเจ้าของบทนักสืบอัจฉริยะหนวดเฟี้ยว ก็ขอหยิบหัสนิยายฆาตกรรมสุดโด่งดังอีกเล่มของ ‘อกาธา คริสตี’ (Agatha Christie) อีกหนึ่งเล่มที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1937 เคยดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 1978 และเป็นภาพยนตร์ฉายทางทีวีในปี 2004 กลับมาหาเรื่องหาทำให้นักสืบผู้รักความเป๊ะ และรักการหม่ำขนมเค้กผู้นี้ไม่ได้มีโอกาสท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจแบบสบายเนื้อสบายตัวกันอีกแล้ว (555)

คราวนี้ ‘ไมเคิล กรีน’ (Michael Green) ผู้รับหน้าที่เขียนบทตั้งแต่ภาคที่แล้ว กลับมาดัดแปลงนวนิยายในจักรวาลปัวโรต์ (A Poirot Story) ของ ‘อกาธา คริสตี’ พาเราย้อนเรื่องราวกลับไปในปี 1937 ในขณะที่ปัวโรต์กำลังพักผ่อนอยู่ที่มหาพีระมิดกีซา (Pyramid of Giza) ประเทศอียิปต์ เขาได้รับคำร้องขอจากคู่รักข้าวใหม่ปลามันอย่าง เศรษฐีนีไฮโซ ‘ลินเน็ต ริดจ์เวย์ ดอยล์’ (Gal Gadot) และนายหน้าค้าที่ ‘ไซมอน ดอยล์’ (Armie Hammer) ให้เดินทางไปที่เมืองอัสวาน (Aswan) เพื่อคอยคุ้มกันทั้งคู่จาก ‘แจ็คเกอลีน เดอ เบลเลฟอร์ต’ (Emma Mackey) อดีตคนรักของไซมอน และ (อดีต) เพื่อนของลินเน็ต ที่ถูกเพ่งเล็งว่า เธออาจจะตามมาก่อเรื่องล้างแค้นทั้งคู่ระหว่างที่กำลังฮันนีมูนบนเรือสำราญล่องแม่น้ำไนล์สุดหรูหราที่มีชื่อว่า ‘คาร์นัก’ (Karnak)

โดยมี ‘ลูอีส บอร์เจต์’ (Rose Leslie) ผู้ดูแลส่วนตัวของลินเน็ต ‘บุค’ (Tom Bateman) คู่หูของปัวโรต์ ‘ยูฟีเมีย’ (Annette Bening) แม่ของบุค ‘โรซาลี ออตเตอร์บอร์น’ (Letitia Wright) คนรักของบุค เพื่อนของลินเน็ต หลานป้า และผู้จัดการของนักร้องเพลงบลูส์ชื่อดัง ‘ซาโลเม ออตเตอร์บอร์น’ (Sophie Okonedo) ‘ลินนัส’ (Russell Brand) หมออดีตคู่รักของลินเน็ต ‘แอนดรูว์’ (Ali Fazal) ลูกพี่ลูกน้องผู้ทำหน้าที่นิติกรดูแลกิจการของลินเน็ต ‘มารี’ (Jennifer Saunders) แม่บุญธรรมของลินเน็ต และ ‘บาวเออร์’ (Dawn French) พยาบาลส่วนตัวของมารี ยกโขยงมาเที่ยวล่องท่องแม่น้ำไนล์ด้วย แต่แล้วฮันนีมูนก็ต้องจบลง เพราะเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น ปัวโรต์และบุคจึงต้องร่วมมือกันสืบหาฆาตกรบนเรือสำราญสุดหรูหราแห่งนี้

ตัวพล็อตเรื่องเองก็ยังคงใช้กลวิธีแบบ ‘whodunnit’ (ใครเป็นคนทำ ? ) ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็เป็นแนวทางหลัก ๆ ที่ใช้ในนิยาย และยังคงรูปแบบเดียวกับ ‘Murder on the Orient Express’ เป๊ะ ๆ เพียงแค่เปลี่ยนจากรถไฟเป็นเรือสำราญเท่านั้น แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดจริง ๆ หากเปรียบเทียบกับภาคก่อนหน้าก็คือเรื่องของจังหวะการดำเนินเรื่องครับ เพราะใน ‘Murder on the Orient Express’ ถูกเล่าเป็นเส้นเรื่องเดียว และเดินเข้าสู่เรื่องแบบกระชับฉับไว แต่กลับในเรื่องนี้กลับตรงกันข้าม เพราะตัวเรื่องจะค่อย ๆ เล่าอย่างแช่มช้ากว่ามาก กว่าจะมีคนตายก็ล่อเข้าไปครึ่งเรื่องแล้ว (555) ตัวหนังในองก์แรก และครึ่งแรกขององก์ที่สองจึงเป็นการให้เวลาปูเรื่อง ทั้งเรื่องของปัวโรต์เอง และที่มาการชิงรักหักสวาทของอดีตเพื่อนและอดีตแฟนที่ทั้งหวานชื่นและขื่นขมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนจะค่อย ๆ สับเกียร์เร่งเครื่องในช่วงครึ่งหลัง หลังจากสิ้นเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *