ชื่อเรื่อง | Daybreak |
เรตติ้ง | 6.7 |
นักแสดง | Colin Ford,Sophie Simnett,Alyvia Alyn Lind |
จำนวนตอน | 10 ตอน |
รีวิวหนัง Daybreak Netflix
รีวิวหนัง Daybreak Netflix เรื่องราวความรักสุดเพี้ยนหลังโลกล่มสลาย ปกติแล้วหากพูดถึงซีรีส์แนวโลกล่มสลายสิ่งที่เรามักจะจินตนาการถึงก็ย่อมเป็นความยากลำบากความเป็นอยู่ที่เต็มไปด้วยอันตรายมากมายสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายเป็นสภาพความเป็นอยู่ที่ยากที่จะเกิดความรักขึ้นมาขอเพียงแค่ให้เอาตัวรอดไปได้ไปวัน ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องยากมากพออยู่แล้ว แต่ซีรีส์เรื่อง Daybreak กลับนำเสนอเรื่องราวความรักหลังโลกล่มสลายออกมาได้อย่างสนุกสนาน
และเต็มไปด้วยความเพี้ยนสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องราวในซีรีส์เรื่องอื่นนั่นก็เป็นเพราะว่ามันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นซีรีส์ตามกระบวนการปกติทั่วไป แต่มันดัดแปลงมาจาก Graphic Novel ที่ได้นักเขียนมาเขียนบทให้กับฉบับซีรีส์ด้วยทำให้เรื่องราวในฉบับซีรีส์และในฉบับ Graphic Novel นั้นมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากเนื่องจากมีผู้เขียนคนเดียวกันนั่นเอง
ดังนั้นหากคุณคาดหวังว่ามันจะเป็นเรื่องราวแนวเอาชีวิตรอดหลังโลกล่มสลายที่เต็มไปด้วยความระทึกขวัญและความสนุกสนานท่ามกลางอันตรายมากมายคุณอาจจะผิดหวังเมื่อรับชมซีรีส์เรื่องนี้ แต่หากคุณต้องการรับชมซีรีส์เรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องความสนุกสนานและความโรแมนติกแบบฮา ๆ รับรองเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
เรื่องราวภายในซีรีส์เรื่อง Daybreak
Daybreak จะเล่าถึงเรื่องราวของโลกในอนาคตที่ล่มสลายลงไปหลังจากที่ถูกนิวเคลียร์ถล่มสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงผู้คนได้รวมตัวกันเป็นฝักฝ่ายมีทั้งฝ่ายที่ยังสติดีทุกประการเหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไปที่พยายามจะเอาชีวิตรอดให้ได้ในแต่ละวันซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเด็กและวัยรุ่นส่วนอีกฝ่ายนั้นกลายเป็นผู้ใหญ่สติแตกที่ต้องการจะกินเนื้อคนเพื่อประทังชีวิต
เนื่องจากทรัพยากรที่สามารถใช้ได้บนโลกใบนี้ลดน้อยลงไปทุกทีในบรรดาเหล่าผู้รอดชีวิตมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่าจอร์จเขาต้องการที่จะเดินทางออกตามหาคนรักของเขาที่มีชื่อว่าแซมเขามีเรื่องค้างคากับเธอเพราะว่าเขานั้นยังไม่เคยได้ไถความผิดที่เขาได้ทำเอาไว้กับเธอเลยแม้แต่น้อยระหว่างการเดินทางนั้นเขาได้พบเจอกับผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นซามูไรผิวสีที่ร่างใหญ่เนื่องจากเคยเป็นนักกีฬาฟุตบอลมาก่อนแถมยังมีความลับบางอย่างซุกซ่อนเอาไว้อีกด้วยเด็กสาวเจ้าปัญหาที่ชื่นชอบการระเบิดเข้าของอย่างแองเจลิก้าเด็กเนิร์ดที่ต้องการจะยึดห้างรั้งเอาไว้คนเดียวเพื่อเสวยสุขอย่างไร
และสุดท้ายคือมิสครัมเบิลผู้ใหญ่คนเดียวภายในทีมที่อดีตเป็นครูสาว แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นปอบหัวเนื้อคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วขณะที่พวกเขาเดินทางนั้นก็ต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมายไม่ว่าจะเป็นการต้องต่อสู้กับผู้ใหญ่ที่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นปอบและต้องการจะกินเนื้อมนุษย์สดๆที่มีทั้งปลอบธรรมดาทั่วไปและมีเทพเจ้าแห่งปอบการอยู่อาศัยของมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยการแบ่งการปกครองออกเป็นชนเผ่าประกอบไปด้วยเผ่านักกีฬาที่มีเทอร์โบเป็นผู้นำเขานั้นชอบแกล้งจอร์จเป็นอย่างมากเพราะชนเผ่านี้ชอบการรังแกคนที่อ่อนแอกว่าเผ่าเชียร์มาซอนซึ่งเป็นตัวแทนของคนที่รักสวยรักงามชอบกินอาหารสุขภาพให้ความรู้สึกเหมือนตัวละครในภาพยนตร์เรื่องมันเกิร์ลและยังมีเผ่าอื่น ๆ อีกมากมายเขาจะสามารถเอาตัวรอดจากอุปสรรคเหล่านี้ไปได้หรือไม่ต้องติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Daybreak
Daybreak เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเหมาะแก่การรับชมเพื่อความบันเทิงในช่วงเวลาว่างเราสามารถรับชมแบบไม่ต้องคิดอะไรก็ได้หรือจะรับชมแล้วมีความก็ได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะรับชมแบบไหนซีรีส์เรื่องนี้ก็สามารถว่า ความสนุกสนานให้กับคุณได้อย่างยอดเยี่ยมซีรีส์สามารถสอดแทรกความตลกเข้ามาได้อย่างกำลังพอดีมากหรือน้อยจนเกินไปทำให้เรื่องราวมีความกลมกล่อมแต่ละชนเผ่านั้นก็ได้รับการออกแบบมาให้มีความน่าสนใจ
และสามารถจิกกัดสังคมวัยรุ่นในโรงเรียนมัธยมปลายได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาร่างใหญ่ที่ชอบรังแกคนอ่อนแอกว่ากลุ่มสาวสวยรักสุขภาพที่ชอบทำตัวเริ่ดเชิดหนึ่งการจิกกัดตัวละครผู้ใหญ่ที่เปรียบเสมือนกับปอบที่คอยกัดกินเด็กและเยาวชนสามารถจิกกัดระบบการศึกษาและสังคมในโรงเรียนชั้นมัธยมปลายได้อย่างเจ็บแสบและสมจริงมีการผสมผสานดราม่าเข้ามาเล็ก ๆ ให้พอมีปมเรื่องบ้างเล็กน้อยรับชมแล้วสามารถตีความได้ว่าผู้ใหญ่นั้นก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่ต้องการหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองโดยที่ไม่สนคนอื่นหากตัดเลือดโลกหลังล่มสลายไปเราจะพบว่า
นี่คือซีรีส์วัยรุ่นที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตในโรงเรียนชั้นมัธยมปลายแบบไม่มีผิดเพี้ยนเพียง แต่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องราวและฉากหลังโดยเปลี่ยนฉากจากโรงเรียนธรรมดาให้กลายเป็นโลกหลังล่มสลายเปลี่ยนตัวละครต่างๆในโรงเรียนให้กลายเป็นแต่ละชนเผ่าถือว่าเป็นการนำเสนอเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นออกมาได้อย่างแตกต่างและมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอย่างชาญฉลาดหากคุณกำลังมองหาซีรีส์สักหนึ่งเรื่องสำหรับการรับชมในเวลาว่างเพื่อความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเราขอแนะนำให้ลองรับชมซีรีส์เรื่องนี้เลยรับรองว่าคุณจะได้รับความสนุกสนานและความตลกตลอดการรับชมอย่างแน่นอน
ตัวอย่างหนัง Daybreak
รีวิว หนัง Daybreak บางส่วนจาก beartai
หลังเหตุการณ์นิวเคลียร์ถล่ม จอช วีลเลอร์ (โคลิน ฟอร์ด) มุ่งมั่นที่จะออกตามหา แซม (โซฟี ซิมเนต) สาวคนรักที่ยังไม่ทันได้ไถ่โทษความผิดที่ตัวเองก่อขึ้น และระหว่างทางเขาก็ได้พบกับ เวสลีย์ (ออสติน ครูต) ซามูไรนักกีฬาฟุตบอลผิวสีที่มีความลับบางอย่างปกปิดไว้ แองเจลิกา (เอลิเวีย เอลิน ลินด์) สาวน้อยเจ้าปัญหาผู้ชอบระเบิดสิ่งของเป็นชีวิตจิตใจ อีไล (เกรกอรี คาซิอัน) หนุ่มเนิร์ดที่หวังยึดครองห้างไว้เสวยสุขคนเดียว และ มิสครัมเบิล (คริสตา รอดริเกวซ) ครูสาวผู้กลายเป็นปอบ แต่อุปสรรคของจอช ไม่ได้มีเพียงเหล่าผู้ใหญ่ที่กลายเป็นปอบหิวเนื้อคนเท่านั้น แต่ยังมีทั้ง เทอร์โบ (โคดี เคียสลีย์) หัวหน้าเผ่ากีฬาที่หวังกำจัดเขา รวมถึงเจ้าแห่งปอบในตำนานอย่าง แบรอน ไทรอัมพ์ ที่หลายคนเกรงกลัว
เดิมที Daybreak เป็นกราฟิกโนเวลของ ไบรอัน ราล์ฟ ที่ได้ตามมาเขียนบทให้ฉบับซีรีส์ด้วย โดยเรื่องราวก็ดูจะได้แรงบันดาลใจจากหนังซอมบี้ อย่าง Dawn of the dead ของ จอร์จ เอ โรเมโร ผสมกับ งานดีไซน์ที่แทบจะถอดแบบ Mad Max : The Road Warrior มาเขย่ารวมกับเรื่องราวการตามหาคนรักในวันสิ้นโลกที่ทั้งโรแมนติกและกาวสุดขั้วไปในคราวเดียวกัน โดยซีรีส์ได้ แบรด เพย์ตัน ที่เคยกำกับหนัง “เดอะร็อค” ทั้ง San Andreas, Journey 2 และล่าสุดคือ Rampage มากุมบังเหียนทั้งร่วมเขียนบทกำกับ 2 ตอน และ นั่งแท่นอำนวยการสร้างบริหารร่วมกับ โทนี อีไล โคเลต
ซึ่งก็พอการันตีได้ระดับหนึ่งว่าหนังจะออกบันเทิงแน่นอน โดยสิ่งที่ถือเป็นจุดเด่นในการเล่าเรื่องของซีรีส์ได้แก่ การทำลายกำแพงที่ 4 ของตัวละคร หันหน้ามาพูดกับคนดูโดยตรง ซึ่งตรงกับคอนเซปต์Ferris Bueller’s Day Off ฉบับโลกแตกที่ เพย์ตันวางไว้ เพราะไอเดียการพูดกับคนดูของตัวละคร แมตธิว โบรเดอริก ในหนังดังของจอห์น ฮิวจ์ เรื่องนั้นได้ถูกนำมาให้ จอช วีลเลอร์ ใช้สื่อสารกับคนดู รวมไปถึงตัวละครอื่น ๆ ในตอนต่อมาด้วย ซึ่งก็ถือว่าเข้ากับหนังที่มีวัยรุ่นเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักแบบ Daybreak อยู่ไม่น้อยเลย รวมถึงการเล่นกราฟิกตัวหนังสือบนจอ เพื่อเล่นมุก ชวนสังเกต หรือกระทั่งการนำเสนอฉากเดิมซ้ำอีกรอบแต่เปลี่ยนรายละเอียดก็นับว่าเป็นวิธีอันชาญฉลาดไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกจุดที่นับว่าเป็นสีสันสำคัญได้แก่การคิดระบบสังคมในโลกหลังล่มสลายที่แบ่งเป็นเผ่า ได้แก่ เผ่านักกีฬาที่นำโดย เทอร์โบ ก็ดูเป็นพวกบูลลีคนอ่อนแอเหมือนในหนังวัยรุ่นแต่ถูกปรับให้โหดกว่าเดิมก็ดูเป็นตัวร้ายที่น่าสะพรึงกลัว แต่ก็ยังมีมุกตลกโหด ๆ มาสร้างความบันเทิงได้ตลอด หรือจะเป็นเผ่า เชียร์มาซอน ที่เน้นรักสวยรักงาม เล่นโยคะ กินคลีน ก็ดูจิกกัดกิจกรรมพวกเฮลตี
และด้วยลุคแบบสวยเริ่ดเชิดหยิ่งก็หนีไม่พ้นคาแรกเตอร์แบบสาวไฮสคูลตัวร้ายที่เคยเห็นมามาปรับเป็นสีสันของเรื่องได้ดีเลย ส่วนเผ่าอื่น ๆ ในซีซันนี้อาจถูกกล่าวถึงแบบผิวเผินไปนิด ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปในซีซันหน้าว่าจะมีเผ่าไหนมีบทบาทขึ่นมาไหม รวมไปถึงการให้ ผู้ใหญ่ ในเรื่องชอบกินเนื้อเด็กกลายเป็นปอบกันหมด ก็ดูจิกกัดวงการการศึกษาได้เจ็บแสบไม่น้อยเลย โดยเฉพาะตัวละคร ครูใหญ่เบอร์ ของ แมตธิว โบรเดอริก ที่ผู้สร้างจงใจเลือกมาเล่นเพื่ออ้างอิงหนัง Ferris Bueller’s Day Off ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดูเหมือนน่านับถือทว่ากลับยึดผลประโยชน์ตัวเอง เป็นการนำเสนอมุมมองทางสังคมที่แหลมคมได้อย่างกลมกล่อมเลยทีเดียว
beartai