ชื่อเรื่องCruella
เรตติ้ง7.4
นักแสดงEmma Stone,Emma Thompson,Joel Fry
จำนวนตอน2.14 ชั่วโมง

รีวิวหนัง Cruella Disney+Hotstar

รีวิวหนัง Cruella Disney+Hotstar การกลับมาอีกครั้งของจักรวาลวายร้ายประจำ Disney เวลาที่รับชมการ์ตูน Disney หลายคนก็มักจะชื่นชอบเหล่าเจ้าหญิงที่ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยความดี ด้วยความที่พวกเธอเป็นนางเอกมันจึงไม่น่าแปลกใจนักที่พวกเธอจะมีคนชื่นชอบเป็นจำนวนมาก แต่หนึ่งในตัวละครที่ถูกชื่นชอบไม่แพ้กันก็คือเหล่าตัวละครวัยร้ายจากการ์ตูนดิสนีย์ไม่ว่าจะเป็นมาเลฟิเซนต์จากภาพยนตร์เรื่อง Sleeping Beauty ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามหลังจากที่มีการสร้างภาพยนตร์ภาคแยกออกมาเล่าถึงเรื่องราวของเธอที่ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย

Disney ได้แสดงให้เราได้ยินว่าไม่มีใครที่ชั่วร้ายมาตั้งแต่เกิด ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้พวกเขานั้นต้องตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองให้สำเร็จ โดยหนึ่งในวายร้ายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจักรวาล Disney นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นครูเอลล่าน่าจะพาพยนต์เรื่อง 101 ดัมเมเชี่ยน เธอเป็นผู้ร้ายที่สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็กในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเธอมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความวิปริตผิดเพี้ยนแถมยังโหดร้ายอีกด้วย เพราะเธอนั้นต้องการที่จะทำการถลกหนังของลูกสุนัขสายพันธุ์ดัลเมเชียนมาทำเป็นเสื้อโค้ท 

ด้วยเหตุนี้ Disney จึงได้นำเอาตัวละครดังกล่าวมาทั้งภาพยนตร์ภาคแยกบอกเล่าถึงเรื่องราวก่อนที่เธอจะกลายเป็นครูเอลล่าสุดเพี้ยนในภาพยนตร์ที่เราได้เห็นกัน นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Cruella ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่เรื่องราวก่อนที่ตัวละครสุดวิปริตตัวนี้จะกลายมาเป็นแบบที่เราเห็นในภาพยนตร์เรื่อง 101 ดัมเมเชี่ยนเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้นักแสดงมากฝีมือเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Emma Stone มารับบทนำอีกด้วย หลายคนมองว่าเธอนั้นอาจจะยังไม่เหมาะกับการเป็นตัวละครนี้ แต่หลังจากที่ภาพยนตร์ได้ฉายบนดิสนีย์พลัสเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอก็ได้พิสูจน์ว่าเธอคู่ควรกับบทบาทนี้อย่างแท้จริง

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Cruella

Cruella จะเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุค 70 กรุงลอนดอน เป็นช่วงเวลาที่แฟชั่นกำลังอยู่ในช่วงเวลาของความเปลี่ยนแปลงและยังเป็นช่วงเวลาที่เด็กหญิงนามว่าเอสเตลล่าได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกด้วย เด็กสาวผู้นี้ต้องสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กทำให้เธอนั้นเป็นเด็กขาดความอบอุ่นที่ก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เธอเริ่มต้นชีวิตอาจญากรรมในวัยเด็กด้วยการลักเล็กขโมยน้อยกับสองเพื่อนซี้ข้างถนนอย่างฮอร์เรสและแจสเปอร์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอนั้นมีความฝันอย่างแรงกล้าที่วันหนึ่งจะได้เป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จ

มันดูเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเด็กสาวข้างถนนที่ไม่มีพ่อแม่คอยช่วยเหลือในการทำตามความฝัน แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เข้าข้างเมื่อเธอนั้นได้ร่วมงานกับเจ้าแม่แฟชั่นดีไซเนอร์อย่างบารอนเนส ฟอน เฮลแมนที่เต็มไปด้วยความเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้วแถมยังเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอีกด้วย เจ้าแม่ผู้นี้นี่เองที่ได้ทำการเปลี่ยนเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความฝันในการเป็นดีไซเนอร์ให้กลายเป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความแค้นและเปลี่ยนตัวเองให้กลายมาครูเอลล่าในที่สุด

 นั่นก็เป็นเพราะว่าเจ้าแม่ดีไซเนอร์ผู้นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่เธอ เพื่อความแค้นเธอจึงได้ทำการเปลี่ยนตัวเองและละทิ้งความฝันรวมไปถึงความไร้เดียงสา เพิ่มความร้ายกาจและความเริ่มขึ้นมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของบารอนเนสให้สิ้นซากด้วยการดีไซน์ที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงและปั่นป่วน  บารอนเนสจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอจงเกลียดจงชังสุนัขสายพันธุ์ดัลเมเชียนหรือไม่ ต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์ 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Cruella

Cruella เป็นภาพยนตร์ที่นำเอาตัวละครจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง 101 ดัมเมเชี่ยนนที่ออกฉายตั้งแต่ในปี 1961 มาดัดแปลงให้กลายเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงที่เล่าเรื่องราวย้อนกลับไปก่อนที่ตัวร้ายครูเอลล่าจะเต็มไปด้วยความชั่วร้ายเหมือนกับที่เราเห็น เดิมทีภาพยนตร์เรื่อง 101 ดัมเมเชี่ยนนั้นเคยได้รับการถ่ายทอดในภาพยนตร์ฉบับคนแสดงแบบไลฟ์แอ็กชันมาก่อน ต้องยอมรับว่าคนที่มาสวมบทบาทครูเอลล่าในช่วงเวลานั้นมีความแตกต่างกับเอ็มม่า สโตนอย่างสิ้นเชิงทำให้ในช่วงเวลาแรกนักแสดงสาวถูกกังขาว่าเธอจะเหมาะสมกับบทหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตามเธอได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าเธอนั้นสามารถถ่ายทอดความร้ายกาจตั้งแต่ต้นจนจบของครูเอลล่า เดอ วิลออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมสมรางวัลออสการ์ที่เธอครอบครอง ภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวตั้งแต่สมัยที่ครูเอลล่ายังเป็นเด็กที่ใส่เสื้อและเต็มไปด้วยความฝัน แต่เธอก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายมากมายในชีวิตจนมันเปลี่ยนให้เธอกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจและความเลิศ 

สิ่งที่ดีอีกหนึ่งอย่างในภาพยนตร์เรื่องนี้เห็นทีจะหนีไม่พ้น Costume Design ที่สามารถถ่ายทอดแฟชั่นในยุค 70 กลางกรุงลอนดอนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทุกอย่างดูมีความเป็นโอกูตูร์แบบทันสมัยแต่ก็ไม่ได้เวอร์วังอลังการจนเกินไป ไม่เพียงเท่านั้นมันยังสามารถถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวละครออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

ตัวอย่างหนัง Cruella

รีวิว หนัง Cruella บางส่วนจาก playinone

Cruella Disney+ รีวิว กว่าจะเป็น ครูเอลล่า จากเรื่อง 101 ดัลเมเชี่ยน เป็นหนังภาคแยกเล่าที่มาการกำเนิดตัวร้ายที่คนจดจำได้มากที่สุดคนหนึ่งในการ์ตูนดิสนีย์ ซึ่งหนังสร้างออกมาได้ดีเกินคาด ต้องยกให้การแสดงของ เอ็มม่า สโตน กับการคืนชีพบทบาทตัวร้ายคนนี้ให้มีมิติน่าสนใจมากขึ้น

หนังเข้าฉายโรงครั้งแรกในสหรัฐ เดือนพฤษภาคม หลังจากโรงภาพยนตร์เปิดให้บริการหลังจากโควิด-19 ทำรายได้ทั่วโลกราว 224 ล้านเหรียญ แล้วจึงลงสู่แอปสตรีมของ Disney+ เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับ 7 ของปีนี้

ตัวหนังมีความยาว 2.14 ชม. รับชมได้เลยใน Disney+

เรื่องราวของ เอสเตลล่า เด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับสีผมสุดแปลกไม่เหมือนใครคือเป็นสีผมตัดขาวดำ เธอใช้ชีวิตอยู่กับแคทเธอรีนผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นห่วงในความแปลกโดดเด่นของลูกสาว จึงพยายามบอกให้เธอทำตัวให้ธรรมดาเข้าไว้ แต่เด็กสาวเอสเตลล่าก็ยังแสดงความเป็นเด็กหญิงหัวขบถในโรงเรียน กระทั่งเธอและแม่ต้องย้ายไปอาศัยที่ลอนดอน

แต่ระหว่างทางแม่ของเธอได้พาไปยังปราสาทแห่งหนึ่งของเคาน์ทบารอนเนสซึ่งกำลังจัดงานเลี้ยงสุดหรู แล้วตอนนั้นเองที่เอสเตลล่าได้ทำความผิดพลาดบางอย่างจนทำให้แม่ของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เธอจึงกลายเป็นเด็กกำพร้าที่โซซัดโซไปพร้อมกับหมาน้อยคู่ใจอย่างบัดดี้ กระทั่งเธอได้เจอกับเด็กผู้ชายหัวขโมยสองคนคือแจสเปอร์และฮอเรส ชีวิตของเอสเตลล่าจึงได้เริ่มขึ้นใหม่ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้มีโอกาสเข้าสู่วงการแฟชั่นจากการแสดงตัวตนของเธอเองที่ไปเข้าตาบารอนเนส อย่างไม่ตั้งใจ แต่เธอก็กลับค้นพบความลับสุดช็อกที่ทำให้เธอตัดสินใจสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของแม่เธอ ซึ่งนั่นรวมถึงการสร้างตัวตนใหม่ของเธอในฐานะ “ครูเอลล่า” ผู้ที่จะกลายเป็นเจ้าแม่แห่งวงการดีไซเนอร์ในอนาคต

ช่วงหลังจะมีการสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่บอกเล่าและสำรวจตัวละครรองๆหรือตัวร้ายในหนังคลาสสิกรุ่นเก่าออกมาหลายเรื่องให้เห็นกันมากขึ้น เรียกว่าเป็นเทรนด์ใหม่ของวงการฮอลลีวูดเลยก็ว่าได้ ซึ่งน่าทึ่งที่ส่วนใหญ่ค่อนข้างประสบความสำเร็จ บางเรื่องถึงขั้นขยายจักรวาลหนังหรือซีรีส์ของตนเองให้ใหญ่โตขึ้น และสามารถขายคนรุ่นใหม่ที่อาจจะไม่ได้สนใจหนังฉบับแรกด้วยซ้ำ ตัวอย่างของซีรีส์ในกลุ่มนี้ที่เราเห็นกันช่วงหลังก็เช่น Cobra Kai, Castle Rock, Ratched , Mandalorian ในขณะที่ภาพยนตร์ก็จะมีพวก Hook, Oz the Great and Powerful, Joker ฯลฯ

Cruella ก็มาในแนวนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าสาเหตุที่แนวทางนี้กำลังได้รับความนิยม แล้วส่วนใหญ่สร้างออกมาก็ไม่ค่อยแป้ก (สัดส่วนรุ่งมากกว่าร่วง) อาจเพราะคนดูยุคหลังชื่นชอบความเป็นสีเทาๆ ของตัวละครมากกว่าจะแบ่งแยก ขาวดำ ชัดเจนแบบหนังก่อนยุค 80 ส่วนใหญ่ ในขณะที่หนังหลังยุค 90 เป็นต้นมา จะเริ่มเห็นว่ากระแสแนวแอนตี้ฮีโร่ได้รับความนิยมมากขึ้น แม้ว่าบางเรื่องอาจเขียนหรือถูกสร้างมาก่อนหน้านั้น แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักจนกระทั่งหลังจากยุคนั้นมาแล้ว ผลงานหลายเรื่องที่สร้างสรรค์ตัวละครเอกหรือตัวร้ายมาแนวเทาหรือกึ่งเทา เริ่มได้รับความสนใจ ในขณะที่ตัวร้ายของหนังเหล่านั้นก็เริ่มจะถูกมองและตีความใหม่ๆ เริ่มมีการสำรวจลงลึกไปถึงจิตใจและที่มาของตัวร้ายเหล่านั้นว่า “ทำไมถึงร้าย” มากกว่าจะเขียนออกมาแค่ว่า เป็นตัวร้ายเพราะเป็นตัวร้าย

สำหรับ ครูเอล่า เดอวิล เป็นหนึ่งในตัวร้ายที่มีชื่อเสียงมากและคนจดจำภาพลักษณ์ของเธอได้มากเป็นอันดับต้นๆ ในหนังดิสนีย์จากยุค 60 อาจเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น ทั้งทรงผมและสีผมสุดแปลก การแต่งกายฉูดฉาด ในขณะเดียวกันหากเปรียบเทียบกับเหล่าแม่มดร้ายหรือแม่เลี้ยงใจร้ายในการ์ตูนดิสนีย์รุ่นเก่า ครูเอลล่ามีความจับต้องได้และออกแอ็กชั่นลงมือก่อการอย่างดุเดือดจนน่าจดจำได้มากกว่า อีกทั้งตัวละครนี้ก็ไม่ได้มีพลังพิเศษหรือเวทมนต์อะไร เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่บ้าแฟชั่นและมีรสนิยมด้านนี้รุนแรงกับความคิดสุดโต่งเกินไปเท่านั้น เรียกว่าเราสามารถพบเจอผู้หญิงแบบนี้ได้ในสังคมทั่วไป โดยเฉพาะโลกของการทำงาน

ทีนี้พอจับตัวละครนี้มาทำการสำรวจลงลึกหรือตีความใหม่ นับว่าตัวละครนี้เข้าข่ายน่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะความเป็นตัวละครที่แสดงออกถึงความหัวขบถ แถมยังเข้ากับยุคสมัยที่มีการเชิดชูเฟมินิสต์ ความกล้าฉีกกรอกสังคม ที่ในภาพยนตร์ตีความใหม่ว่าเธอเป็นเสมือนหนึ่งในผู้ที่มาก่อนกาล ตรงนี้หากเทียบกับ Joker ซึ่งเป็นตัวร้ายอมตะตลอดกาลของวงการคอมิค นับว่าครูเอลล่ามีความคล้ายคลึงบางอย่างที่แปลกประหลาดมาก ทั้งในแง่การแต่งตัวและการทำตัวหลุดโลก ความบ้าคลั่งต่างๆ ที่แสดงออกมา แม้ว่าครูเอลล่าจะมีความโหดเหี้ยมน้อยกว่า แต่ก็ยังมีมุมมืดเหมือนกันในแง่การทารุณสัตว์ (ในต้นฉบับเดิม ครูเอลล่าวางแผนใช้หนังสุนัขดัลเมเชี่ยนมาเป็นหนังของเสื้อคลุม) แต่เนื่องจากภาพยนตร์ฉบับล่าสุดต้องการทำให้ครูเอลล่ามีความเป็นตัวละครแนวแอนตี้ฮีโร่มากขึ้น จึงยังไม่พูดถึงแนวคิดที่ว่านั้นของเธอ แม้ว่าในเรื่องจะมีฉากที่เธอพูดเรื่องนี้ออกมาบ้างก็ตาม

playinone

ขอแนะนำคาสิโนออนไลน์และแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด บริการ sa66 ฝากถอนรวดเร็ว 24 ชม. ด้วยระบบ ฝากถอนออโต้ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ที่ทันสมัยที่สุด มีผู้ใช้งานมากที่สุดในตอนนี้

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *