ชื่อเรื่องCHOOSE OR DIE
เรตติ้ง5
นักแสดงIola Evans,Asa Butterfield
จำนวนตอน1.24 ชั่วโมง

รีวิวหนัง CHOOSE OR DIE

รีวิวหนัง CHOOSE OR DIE ภาพยนตร์แนวสายลับที่เน้นการคุยกันตลอดทั้งเรื่อง ภาพยนตร์บนโลกใบนี้มีมากมายหลากหลายรูปแบบตั้งแต่แบบบล็อกบัสเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแน่นอน ภาพยนตร์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า สืบสวนสอบสวน สยองขวัญ ไปจนถึงภาพยนตร์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมหรือไม่เป็นที่รู้จักอย่างภาพยนตร์แนวสนัฟฟิล์ม ภาพยนตร์แนวเลือดสาด หรือที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือภาพยนตร์แนวคัลท์นั่นเอง

จะบอกว่ามันเป็นภาพยนตร์แนวคัลท์ก็ไม่ถูกสักเท่าไหร่ เพราะ CHOOSE OR DIE เป็นภาพยนตร์สยองขวัญต้นทุนต่ำที่มีความพยายามจะคัลท์แต่ออกมาไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่มากกว่า ต้องยอมรับ่าภาพยนตร์สยองขวัญต้นทุนต่ำอาจไม่ใช่ภาพยนตร์คุณภาพอะไรเพราะงบประมาณที่มีจำกัด แต่มันก็มีเสน่ห์ในแบบของมันเช่นเดียวกัน ความสยองขวัญแบบดิบๆ สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่บทหรือภาพมักออกมาไม่ดีเท่าที่ควร การทำเป็นภาพยนตร์แนวคัลท์จึงน่าจะช่วยให้จุดด้อยตรงนี้หายไปได้ เพราะมันเป็นภาพยนตร์แบบติสท์ๆ ที่ไม่ได้ต้องการความเข้าใจอะไรมากมาย มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร 

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราย้อนกลับไปในยุค 80 ที่วีดิโอเกมกำลังได้รับความนิยม แต่แทนที่มันจะสร้างความสนุกสนานแต่มันดันสร้างความสยองขวัญขึ้นมาด้วยเสียอย่างนั้น ดังนั้นแน่นอนว่าพล็อตเรื่องไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร เพราะภาพยนตร์แนวเล่นเกมแบบตายจริงมีให้เราเห็นมากมายมาตั้งแต่ในยุค 90 อยู่แล้ว แต่ใครที่เข้า NETFLIX แล้วทนความเย้ายวนของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ไหว อยากจะกดเข้าไปดูแต่ก็ยังลังเล เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นกัน

หนัง netflix แนะนํา 2022

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง CHOOSE OR DIE

CHOOSE OR DIEเป็นภาพยนตร์ที่จะพาเรากลับไปในยุคเฟื่องฟูของวีดิโอเกมนั่นก็คือยุค 80 นั่นเอง เล่าถึงเรื่องราวของเด็กหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ได้ไปพบกับวีดิโอเกมหนึ่งเข้า มันเป็นวิดีโอเกมที่หากเราสามารถเคลียร์ผ่านด่านได้สำเร็จเราก็จะได้รับเงินรางวัลในชีวิตจริง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจังเปิดเล่นโดยไม่ทันเอะใจถึงความแปลกประหลาดของมันเลยแม้แต่น้อย แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องพบว่ามันไม่ใช่เกมธรรมดาทั่วไป เพราะเงินรางวัลที่ได้ในชีวิตจริงก็แลกมาด้วยความเสี่ยงในชีวิตเช่นเดียวกัน

มันเป็นเกมที่จะท้าให้ผู้เล่นเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ ซึ่งเกมที่กำหนดมานั้นล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับทั้งความเจ็บป่วยหรือแม้แต่ความตายของผู้เล่นเลยทีเดียว เท่ากับผู้เล่นกลายเป็นเหยื่อของเกมนี้ไปโดยปริยาย คนที่ออกไอเดียในการเล่นเกมนี้อย่างเด็กสาวเกิดจากการที่เธอต้องหาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยอยู่ เพราะทางบ้านของเธอฐานะยากจนทำให้เธอไม่สามารถช่วยเหลือแม่ได้เลยตลอดมา ในขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนแค่ตกกระไดพลอยโจนเพราะเขาชอบเด็กสาวแถมยังหวัจะเคลมเธออีกต่างหาก โชคดีที่เขาเป้นนักพัฒนาเกมอินดี้ทำให้พอมีความรู้เรื่องเกมอยู่บ้าง สุดท้ายแล้วเรื่องราวของพวกเขาจะเป้นอย่างไรต่อไป ต้องรับชมกันต่อในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง CHOOSE OR DIE

CHOOSE OR DIE เป็นภาพยนตร์ที่มีความยาวเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น ดังนั้นเรื่องราวจึงไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรมากมาย การดำเนินเรื่องราวค่อนข้างไว เข้าสู่เนื้อหาหลักอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วก็ทำให้ภาพยนตร์ท้งรายละเอียดบางอย่างไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน เรื่องราวโดยรวมให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์เรื่อง THE RING ผสมกับ JUMANJI นั่นก็คือเกมวิดีโอเกมลึกลับได้ เอามาเล่นแล้วต้องเล่นในชีวิตจริง ทำให้เกิดความสยองขวัญตามมา

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวสยองขวัญต้นทุนต่ำ แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นความโหดเลือดสาด สิ่งที่เราจะได้สัมผัสเป้นเพียงแค่ภาพความยองแบบชวนหวาดเสียวเท่านั้น ไม่ได้โหดชวนอ้วกแบบจัดเต็มแต่อย่างใด เหมาะสำหรับคนที่อาจจะไม่ถูกกับเลือสักเท่าไหร่ มีความพยายามทำให้เป็นภาพยนตร์แนวคัลท์ด้วยการใส่ฉากในวิดีโอเกมลงมาแบบดื้อๆ แทนฉากสยองขวัญที่มีการเกิดขึ้นจริง หรือไม่ก็เป็นฉากแปลกๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าไหร่ อย่างเช่นการให้ตัวละครเป็นเหมือนกับในเกม คาดว่าน่าจะเกิดจากความต้องการประหยัดงบประมาณที่มีอยู่น้อยนิด ช่างน่าเสียดายที่มันออกมาไม่เข้าท่าเอาเสียเลย ดูผิดที่ผิดทางไปหมดจนสร้างความหงุดหงิดให้กับผู้รับชมอย่างเราได้อย่างง่ายดาย

มีการใส่เรื่องคำสาปเข้ามาในเกมแบบไปไม่สุด มันไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป มีการผูกตัวละครเข้ากับพลังวิเศษที่ทำให้เรื่องราวเละเทะไปกันใหญ่ ตอนจบก็รู้เลยว่ามีการทิ้งเบาะแสเอาไว้เผื่อสร้างภาค 2 ตามออกมาอย่างแน่นอนซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะไม่ได้ไปต่อจากกระแสตอบรับที่ไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นโดยรวมแล้วต้องบอกว่ามันเป็นภาพยนตร์สยองขวัญต้นทุนต่ำแนวขายอเดียมากกว่าความสนุกสนาน หากคุณอยากสัมผัสความแปลกใหม่ก็ลองเข้าไปรับชมได้ แต่หากคุณไม่ชอบภาพยนตร์แนวนี้เป็นทุนเดิมแล้วเราขอแนะนำว่าอย่าเสียเวลาจะดีกว่า เพราะแทนที่คุณจะได้ใช้เวลาสนุกสนานกับภาพยนตร์ที่คุณชื่นชอบแล้ว คุณอาจจะต้องเผชิญกับความหัวร้อนอีกด้วย แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบความแปลกใหม่และกลิ่นอายของภาพยนตร์แนวสยองขวัญต้นทุนต่ำแบบดิบๆ มันก็อาจจะพอสร้างความนุกสนานให้กับคุณได้บ้างเช่นเดียวกัน สล็อตยูฟ่า

ตัวอย่างหนัง CHOOSE OR DIE

รีวิว หนัง CHOOSE OR DIE บางส่วนจาก beartai

แม้ ‘Choose or Die’ ผลงานของผู้กำกับชื่อไม่คุ้นอย่าง โทบี เมกินส์ (Toby Meakins) จะเดินเรื่องด้วยพล็อตที่ไม่ได้ชวนให้รู้สึกแปลกใหม่มากกับเกมคอมพิวเตอร์ต้องคำสาปที่ผู้เล่นไม่สามารถหนีพ้น ต้องเล่นให้ชนะหรือไม่ก็ตาย อาจด้วยเพราะเราผ่านหนังเกรดบีแนวนี้มาบ้างแบบดัดหลบวิธีเล่ากันอย่างละนิดละหน่อย เกี่ยวกับเกมมรณะที่มีอำนาจลึกลับควบคุมผู้เล่นให้ต้องเอาชนะไปเรื่อย ๆ

และก็ต้องยอมรับว่าแม้พลอตมันจะไม่ได้ดูใหม่แต่มันก็น่าสนใจอยู่วันยังค่ำ กับการได้ดูตัวละครเผชิญอาถรรพ์เหนือธรรมชาติที่ยากจะเข้าใจและถูกกดดันให้ต้องเล่นเกมนั้น แน่นอนว่านอกจากการเดินเรื่องแบบธริลเลอร์ที่ชวนลุ้นว่าตัวละครจะเอาตัวรอดหรือจะหาวิธีผ่านในแต่ละด่านได้อย่างไรแล้ว อีกอย่างที่ทำให้หนังแนวนี้น่าสนใจเสมอคือปมปริศนาว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งหนังส่วนมากมักจะตกม้าตายกันตรงนี้เสียส่วนใหญ่

ซึ่งข้อดีหนึ่งของหนังเรื่องนี้ก็คือ หนังมีไอเดียที่น่าสนใจในการหาที่มาที่ไปของเกม และเมื่อเฉลยที่มาที่ไปแล้วคนดูไม่รู้สึกว่าผู้สร้างแถ และดูถูกคนดูมากเกินไป รวมถึงด่านสุดท้ายของตัวเกมเป็นอะไรที่สร้างสรรค์และไม่เหมือนใครดี แม้ด้านโปรดักชันอาจไม่ได้ดูอลังการสมการรอคอย แต่แค่ไอเดียของการเล่นมันก็ชวนให้เดาได้ยากทีเดียว

สำหรับหน้าหนังนั้นได้ อาซา บัตเทอร์ฟิลด์ (Asa Butterfield) มาชูโรง โดยช่วงหลังเขาเหมือนจะมีผลงานดังแค่ซีรีส์ ‘Sex Education’ และเหตุผลในการเล่นเรื่องนี้ก็อาจแค่เพื่อช่วยให้หนังเรื่องนี้มีดาราที่มีชื่อเสียงบ้างไม่ดูเกรดต่ำจนเกินไป และอาจเพื่อให้คนดูคาดไม่ถึงกับบางฉากในหนังว่าผู้กำกับจะเอาบัตเทอร์ฟิลด์มาเล่นแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบทบาทที่บัตเทอร์ฟิลด์ได้รับนั้น แทบไม่ได้ต้องการฝีมือการแสดงอะไรมากมายเลยจะเป็นดาราคนไหนก็น่าจะเล่นได้ จึงเป็นความน่าเสียดายสำหรับแฟนคลับของเขาที่ติดตามมาตั้งแต่ ‘The Boy in the Striped Pyjamas’ (2008) ที่หนังใช้ประโยชน์จากเขาน้อยเกินไป

ตัวหลักของหนังจริง ๆ เป็นฝั่งตัวละครสาวอย่าง เคย์ลา ที่ได้นักแสดงหน้าและชื่อไม่คุ้นอย่าง ไอโอลา อีแวนส์ (Iola Evans) เสียมากกว่า เธอต้องรับบทหญิงสาวที่ตะเกียกตะกายหาชีวิตที่ดีกว่าแต่ด้วยสภาพฐานะทางบ้านที่อาศัยในแฟลตสลัมย่านค้ายาเสพติด เธอจึงเลือกได้แต่เป็นพนักงานทำความสะอาดจนวันหนึ่งได้มาพบเกมเก่าที่เพื่อนชายอย่าง ไอแซก (อาซา บัตเทอร์ฟิลด์) ไปเหมายกกระบะมา เธอเอามาเล่นเพราะไอแซกบอกว่าบางครั้งเกมเก่าพวกนี้ก็ซ่อนพวกรางวัลที่เป็นเงินไว้ ด้วยภูมิหลังตัวละครที่มีดราม่าในครอบครัวค่อนข้างมากทำให้ตัวละครนี้ดูมีชีวิตมากที่สุดไปตามระเบียบ แต่ถามว่าอีแวนส์โดดเด่นเป็นที่จดจำได้ไหม ก็ต้องตอบว่ายังไม่ได้

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *