| ชื่อเรื่อง | Below Zero Netflix |
| เรตติ้ง | 6.2 |
| นักแสดง | Javier Gutiérrez, Karra Elejalde, Luis Callejo |
| จำนวนตอน | 1.46 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง เด็กใหม่ ซีซัน 2 Girl From Nowhere Season 2
รีวิวหนัง เด็กใหม่ ซีซัน 2 Girl From Nowhere Season 2 การกลับมาอีกครั้งของแนนโน๊ะที่จะทำให้สังคมต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการศึกษา เราต่างทราบกันดีมาเป็นเวลานานว่าระบบการศึกษาในประเทศไทยนั้นกำลังประสบปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขและให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะทั้งในส่วนของอาจารย์ ครู หรือแม้แต่นักเรียนอีกก็ตาม ทั้งที่โรงเรียนนั้นควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชนแต่มันกลับกลายเป็นสถานที่ที่แตกต่างออกไป
สิ่งเหล่านี้จึงกลายมาเป็น Concept ของการสร้างซีรีส์เรื่องเด็กใหม่ขึ้นมาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน สถานที่ที่ควรจะเป็นสถานที่ที่ดีงามและบ่มเพาะให้เด็กนั้นเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม แต่ในโรงเรียนนั้นกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวความอันตรายมากมายที่สามารถสร้างความเจ็บปวดได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับเด็ก
เด็กใหม่เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและกลายเป็นกระแสที่พูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ส่งผลให้นักแสดงสาวใหญ่คิทตี้ ชิชา อมาตยกุลนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังและกลายเป็นที่รู้จักขึ้นมาอีกด้วย เพราะเธอนั้นสามารถแสดงบทบาทการเป็นแนนโน๊ะมาได้อย่างยอดเยี่ยมแบบที่เราไม่ทราบเลยว่าหากคนอื่นมารับบทนี้ไปเรานั้นจะเป็นอย่างไร
จากกระแสความนิยมอย่างล้นหลามและการเรียกร้องให้สร้างภาคต่อออกมานั้นทำให้ในที่สุดทีมผู้สร้างก็ได้ทำการสร้างภาคต่อและนำเสนอในชื่อเด็กใหม่ ซีซัน 2 ให้พวกเรานั้นได้สัมผัสกับการล้างแค้น ดึงด้านมืดออกจากจิตใจของมนุษย์ และความบ้าคลั่งของลูกสาวซาตานอย่างนั้นอีกครั้ง
ที่สำคัญคือในครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมกับความบ้าระห่ำมากกว่าเดิม ความโหดดิบมากกว่าเดิมที่จะทำให้เราได้เห็นถึงภาพสะท้อนของการศึกษาไทยได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น แม้ว่าในซีซันนี้จะออกมาเพียงแค่ 8 ตอนเท่านั้นซึ่งน้อยกว่าในซีซั่นแรกที่มี 12 ตอน แต่รับรองว่าใน 8 ตอนนี้เราจะได้ดื่มด่ำไปกับความลับอันดำมืดและเรื่องราวความผิดบาปที่เกิดขึ้นในโรงเรียนอย่างแน่นอน
ประเด็นเรื่องราวที่จะถูกนำมาเล่าในซีรีส์เรื่องเด็กใหม่ ซีซัน 2
เด็กใหม่ ซีซัน 2 จะมีจำนวนทั้งสิ้น 8 ตอนด้วยกันซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดในแต่ละตอนออกมาเรียบร้อยแล้ว ในตอนแรกนั้นจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการล่าแต้มในโรงเรียน เป็นเรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวระหว่างนักเรียนด้วยกัน แต่ด้วยความที่เป็นนักเรียนมปลายทั้งคู่ที่ยังคงไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้นั้น ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวจำเป็นจะต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะเรื่องการท้อง แต่แน่นอนว่าเมื่อแนนโน๊ะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมดนี้ หมายความว่าความสัมพันธ์เหล่านี้จะต้องนำพามาขึ้นหายนะมากมายอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นในตอนที่ 2 จะเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนหญิงล้วนที่กำลังมีความคิดว่าจะรวมโรงเรียนเข้ากับโรงเรียนชายล้วนอีกแห่งที่อยู่ใกล้กัน แต่ความคิดนี้ก็ถูกครูที่เข้มงวดคนหนึ่งคัดค้านเอาไว้ แต่ด้วยปัญหาทางการเงินทำให้ทางโรงเรียนนั้นยังคงต้องดำเนินการต่อไป ในขณะที่ครูผู้นั้นมองว่าผู้ชายนั้นจะเข้ามาเป็นตัวที่ทำลายความเหมาะสมในโรงเรียนหญิงล้วนอันทรงเกียรติ เธอจึงได้ตั้งกฎที่เต็มไปด้วยความเข้มงวดขึ้นมามากมาย
ต่อมาจะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะ เธอนั้นจึงถูกตามใจและมีพ่อที่คอยใช้เงินแก้ปัญหาให้กับเธอในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กอย่างการโกงข้อสอบไปจนถึงการขับรถยนต์ไปชนคนตาย ต่อมาเป็นตอนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดนั่นก็คือตอนที่เล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาวที่มีชื่อว่ายูริ เธอนั้นอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีฐานะดีแตกต่างจากเธอที่ยากจน แม้ว่ามองจากภายนอกเพื่อนจะปฏิบัติกับเธออย่างเท่าเทียมแต่ความจริงแล้วเธอนั้นถูกปฏิบัติไม่ต่างจากคนรับใช้
ตอนต่อมาจะขยับสู่รั้วมหาวิทยาลัยที่เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการรับน้องแบบไม่เหมาะสมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและไม่สร้างสรรค์ ว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างไรหากรุ่นพี่ที่เคยพยายามรับน้องแนนโน๊ะจะต้องถูกแนนโน๊ะรับน้องบ้าง ก่อนจะกลับเข้าสู่รั้วโรงเรียนมัธยมอีกครั้งกับโรงเรียนที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดที่กระทำแบบต่อๆ กันมา และมีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัดพร้อมกับลงโทษนักเรียนที่ฝ่าฝืนอย่างหนัก
ในตอนที่ 7 นั้นจะเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเน็ตไอดอลที่พยายามสร้างภาพว่าตนเองนั้นเป็นคนที่เพียบพร้อม ทำให้เธอนั้นต้องโกหกมากมาย ซึ่งในตอนนี้ยูริจะปรากฏตัวอีกครั้งด้วย แล้วตอนสุดท้ายนั้นจะเล่าถึงอวสานแนนโน๊ะ ไม่มีใครทราบว่าชื่อตอนนั้นเป็นการพยายามบอกลาของผู้สร้างหรือเปล่า เพราะมันเล่าถึงเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีความเก่งกาจแต่กลับป่วยเป็นโรครุนแรง ทำให้ครูที่สนิทสนมกันเปิดรับบริจาค
ประเด็นในโรงเรียนกับซีรีส์เรื่องเด็กใหม่ ซีซัน 2
เด็กใหม่ ซีซัน 2 เป็นการก้าวขึ้นมาอีกขั้นของซีรีส์ที่มีการบอกเล่าเรื่องราวนอกเหนือจากรั้วโรงเรียนมัธยมไปยังรั้วมหาวิทยาลัย ถึงประเด็นที่มีการถกเถียงกันมาอย่างยาวนานเรื่องการรับน้องว่าสุดท้ายแล้วระบบโซตัสนั้นเป็นระบบที่สมควรนำเอามาบังคับใช้ในโรงเรียนหรือไม่
ในซีซันนี้ได้นำเอาประเด็นที่มีอยู่จริงในโรงเรียนมาเล่าอย่างเจ็บแสบด้วยการจิกกัดตามสไตล์ของแนนโน๊ะ ทั้งประเด็นความสัมพันธ์แบบชู้สาวที่นักเรียนไทยไม่ได้รับการปลูกฝังและการสอนให้มี Safe sex ทำให้พวกเขานั้นต้องเผชิญกับการท้องโดยที่ไม่พร้อมแถมผู้ชายก็ยังไม่รับผิดชอบอีกต่างหาก
ความเหมาะสมของการเป็นคุณครูไม่ว่าจะเป็นความเข้มงวดหรือการที่ไม่อนุญาตให้นักเรียนตั้งคำถาม การวางตนเป็นพระเจ้าของคุณครูในโรงเรียนนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่เป็นสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้จะให้คำตอบกับเรา มีการหยิบยกนำเอาส่วนหนึ่งของคดีใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาบอกเล่าเกี่ยวกับเด็กที่ครอบครัวมีเงินและสามารถใช้เงินในการแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง
ปัญหาความเท่าเทียมกันของในสังคมเล็กๆ อย่างโรงเรียนที่มีความแตกต่างในเรื่องของฐานะ กฎระเบียบที่เข้มงวดจะไม่สมเหตุสมผลรวมไปถึงการลงโทษที่ขัดต่อระเบียบกระทรวงและกฎหมาย จนทำให้เราต้องตั้งคำถามว่าในโรงเรียนนั้นสรุปแล้วกฎของโรงเรียนเป็นกฎที่ใหญ่ที่สุดจริงหรือไม่ ประเด็นเรื่องการรับเงินบริจาคที่หลายคนตั้งคำถามว่าสุดท้ายแล้วเงินที่บริจาคไปไปถึงคนที่ต้องการจริงหรือไม่ และสุดท้ายคือประเด็นเรื่องเน็ตไอดอล ที่ภาพเบื้องหน้านั้นเต็มไปด้วยความสวยงาม แต่เบื้องหลังนั้นต้องปกปิดอะไรมากมาย
ตัวอย่างหนัง เด็กใหม่ ซีซัน 2 Girl From Nowhere Season 2
รีวิว หนัง เด็กใหม่ ซีซัน 2 Girl From Nowhere Season 2 จาก beartai
ในซีซันที่แล้ว ซีรีส์ ‘เด็กใหม่’ (Girl From Nowhere) คือการซีรีส์แนวแฟนตาซี-ลึกลับ-ทริลเลอร์คอนเซ็ปต์จัด เนื้อหาจี๊ดความยาว 13 อีพีที่ว่าด้วยเรื่องของ ‘แนนโน๊ะ’ ลูกสาวซาตานในร่างหญิงสาววัยมัธยมปลาย ผู้เปรียบเสมือน ‘ทูต’ พาคนดูเข้าไปในโรงเรียนด้วยสถานะ ‘เด็กใหม่’ เฝ้าดูพฤติกรรมของผู้คนทั้งที่ดีงามและชั่วร้าย ทั้งกระทำและโดนกระทำ ได้เปรียบและเสียเปรียบของเหล่าผู้คนในรั้วโรงเรียน
และเปลี่ยนตัวเองเป็น “ยมทูต” ที่นำพาคนดูไปเฝ้าสังเกตการชำแหละด้านมุมของประเด็นสังคมเหล่านั้นด้วยการคอยยุยง และกระตุ้นชี้ให้คนตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไป ก่อนที่จะปล่อยให้ผลของการกระทำนั้น ๆ ค่อย ๆ กัดกิน และแสดงผลของมันต่อคนผู้กระทำนั้นอย่างรุนแรง หนักหน่วง และแฟนตาซี
ใน ‘เด็กใหม่ ซีซัน 2’ (Girl From Nowhere Season 2) นี้ แม้ว่าเหตุการณ์ในทั้ง 8 อีพีของซีซันนี้จะยังเกิดขึ้นในโรงเรียน แต่โครงสร้างของเนื้อหาโดยรวมเริ่มขยายออกไปนอกรั้วโรงเรียน ไปสู่ประเด็นข่าวดราม่าในสังคมที่ดูปุ๊บรู้เลยว่าหมายถึงข่าวไหน ทั้งเรื่องประเด็นความรักในวัยเรียนใน ‘นักล่าแต้ม’ (Pregnant) และ ‘True Love’ อุบัติเหตุและการปัดความรับผิดชอบใน ‘มินนี่ 4 ศพ’ (Minnie and the Four Bodies) ประเด็นเรื่องชนชั้นและการเอารัดเอาเปรียบใน ‘กำเนิดยูริ’ (Yuri) กฏระเบียบและอาการบ้าคลั่งในอำนาจที่ดูไร้สาระใน ‘ห้องสำนึกตน’ (Liberation) และ ‘รับน้อง’ (SOTUS) ตัวตนจริง ตัวตนปลอมในโลกออนไลน์ใน ‘JennyX’ และเรื่องราวสุดสะพรึงของคู่แม่ลูกสุดลึกลับในตอนสุดท้าย ‘อวสานแนนโน๊ะ’ (The Judgement)
ในแง่ของบทในซีซันนี้ ดูเหมือนว่าโจทย์ของทีมงานเขียนบทและกำกับจะค่อนข้างมีแนวทางชัดเจนว่า เพื่อจะเป็นซีรีส์ที่ลงใน Netflix “เท่านั้น” ต่างจากในซีซันแรก ที่มันเคยเป็น “ทีวีซีรีส์” มาก่อน สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นชัดก็คือ ในซีซันนี้ เนื้อหาถือว่า “ดาร์ก” “ตรงไปตรงมา” และ “แฟนตาซี” มากกว่า รวมทั้งยังมีความ “สากล” มากกว่า ทำให้ภาพรวมในซีซันนี้ ขับเคลื่อนเรื่องราวด้วยความแฟนตาซีเซอร์เรียลมากกว่าในซีซันที่แล้ว ที่สำคัญคือ ประเด็นสังคมแต่ละประเด็นในซีซันนี้แต่ละตอนนี่แรงมาก แรงโคตร ๆ ชนิดที่เรียกว่าดูปุ๊บรู้เลยว่าหมายถึงใครหรือข่าวไหน จนแอบหวั่นใจแทนเหมือนกันว่า เนื้อหาบางตอนนี่เสี่ยง “โดนสอย” หรือ “ทัวร์ลง” อยู่เหมือนกันนะครับ
อีกสิ่งที่ชัดเจนก็คือ การที่ในซีซันนี้ เปิดกว้างให้ผู้กำกับในแต่ละตอนมีโอกาสได้ตีความเรื่องราว และสื่อสารออกมาในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น จนทำให้ในแต่ละตอนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจนมาก อย่างเช่นในตอน ‘ห้องสำนึกตน’ (กำกับโดย ‘ปวีณ ภูริจิตปัญญา’ และ ‘สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์’) ที่มีการใช้สีขาว-ดำ และเปลี่ยนขนาดภาพเป็น 4:3 ราวกับว่าเป็นภาพยนตร์ขาวดำยุคเก่า เพื่อสื่อถึงการปลดแอกจากกฏประหลาด ๆ ถือเป็นการทดลองที่มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าในซีซันที่แล้วอย่างชัดเจน
หากจะมีข้อสังเกตอยู่บ้างในซีซันนี้ก็คือ เนื้อหาในบางอีพีมีอาการดรอปอยู่บ้างครับ จริง ๆ เนื้อหาโดยรวมถือว่าใช้ได้เลย แต่อาจจะด้วยความแรงและดาร์กมาก ๆ ในบางอีพี ก็เลยทำให้บางอีพีอาจดูดรอปลงไป แต่เมื่อเนื้อหาเริ่มคลายปม ความดาร์ก โหดเหี้ยม และเซอร์เรียลก็ถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วง
ส่วนนักแสดงทุกคนในซีซันนี้ ถือว่าเล่นดีในบทบาทของตัวเองอย่างน่าประทับใจครับ โดยเฉพาะกับ ‘คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล’ เจ้าของบทบาทแนนโน๊ะ ที่ในซีซันนี้ เราจะได้เห็นแนนโน๊ะในมุมที่ต่างออกไปจากในซีซันแรกอย่างสิ้นเชิง ชนิดที่เรียกว่า เราอาจจะมีโอกาสได้เห็น “ซาตานกลายเป็นพระเจ้า” อะไรทำนองนั้นแหละส่วนนักแสดงรับเชิญหลายคนเช่น ‘เจมส์ ธีรดนย์’, ‘เอม ภูมิภัทร’, ‘ญารินดา บุนนาค’ และ ‘พลอย ศรนรินทร์’ ก็แสดงบทบาทของตัวเองในแต่ละอีพีได้โดดเด่นน่าจับตามองเลยทีเดียว
beartai