ชื่อเรื่อง | ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง |
เรตติ้ง | 5.4 |
นักแสดง | ยังโอม,แจ็ค แฟนฉัน,น้าเน็ก |
จำนวนตอน | 1.50 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง
รีวิวหนัง ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง การรวมกันระหว่างภาพยนตร์จักรวาลสาระแนและไอดอล ไอดอลเป็นกลุ่มเด็กผู้หญิงที่มีภาพลักษณ์น่ารัก สดใส เป็นกันเอง เรามักจะเห็นพวกเธอในบุคลิกที่เหมือนกับสาวในฝัน ดังนั้นมันจึงแทบจะเป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไรหากไอดอลได้เข้ามาอยู่ในภาพยนต์จักรวาลสาระแนที่มีการแกล้งกันค่อนข้างแรง เป็นภาพยนตร์ตลกที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามมานับครั้งไม่ถ้วนแม้ว่าจะเป็นการนำเสนอออกมาในรูปแบบคล้ายกับสารคดีเรียลลิตี้ก็ตาม แต่ในที่สุดก็มีการรวมตัวกันระหว่างภาพยนตร์จักรวาลสาระแนและไอดอลสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วจนออกมาเป็นภาพยนตร์เรื่องห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง
ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้องเป็นภาพยนตร์ที่แขกรับเชิญคือวงไอดอลวงน้องของ bnk48 อย่าง cmg48 มาเป็นแขกรับเชิญ ต้องยอมรับว่า cgm48 นั้นหากเทียบเรื่องชื่อเสียงหรือความโด่งดัง การเป็นที่รู้จักกับวงพี่อย่าง bnk48 พวกเธอเป็นที่รู้จักน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากเป็นวงไอดอลประจำภูมิภาคอย่างภาคเหนือในจังหวัดเชียงใหม่ ต่างจาก bnk48 ซึ่งเป็นไอดอลวงพี่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วทั้งประเทศมาก่อน
การที่พวกเธอได้รับโอกาสในการเป็นแขกรับเชิญของภาพยนตร์จักรวาลสาระแนนั้นถือเป็นโอกาสที่ดีเป็นอย่างมากที่พวกเธอจะได้โชว์ความสามารถและตัวตนของตนเองให้มีแฟนคลับมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเองผู้รับชมก็จะได้รับชมความสดใสน่ารักของพวกเธอ และไม่แน่ว่าอาจจะกลายมาเป็นหนึ่งในโอตะวง cgm48 ก็ได้
อย่างไรก็ตามอย่างที่เราทราบกันดีว่าการแกล้งกันในภาพยนตร์จักรวาลสาระแนนั้นเป็นการแกล้งกันที่ค่อนข้างรุนแรง พอแขกรับเชิญเป็นไอดอลเด็กหญิงที่มีภาพลักษณ์น่ารักอ่อนโยนมันจึงทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกมาเป็นอย่างไร การกลั่นแกล้งกันนั้นจะออกมาในลักษณะเดิมที่รุนแรงไปเลยหรือมาในลักษณะที่น่ารัก วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูคำตอบกัน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง
ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้องเป็นภาพยนตร์แนวสารคดีเรียลลิตี้ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเปิ้ล นาครอดีตพิธีกรรายการสาระแนและเป้ นฤบดีที่เคยฝากผลงานไว้ทั้งในภาพยนตร์เรื่องสาระแนห้าวเป้งและ Low season สุขสันต์วันโสดได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อสร้างภาพยนตร์ในการกลั่นแกล้งกันประจำปี
พวกเขานั้นได้รับหน้าที่ให้สอนวิชาเป็นไอดอลพร้อมกับการกลั่นแกล้งให้กับวงไอดอลภาคเหนือยอดนิยมอย่าง cgm48 นอกจากพวกเขาทั้งสองคนจะได้รับบทบาทเป็นอาจารย์ในการสอนวิชาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความวุ่นวายมากมาย ยังมีแขกรับเชิญอีก 4 คนซึ่งเป็นถึง Superstar ในวงการบันเทิงไทยเข้ามาร่วมให้บทเรียนกับเหล่าไอดอลสาวในการเป็นคนดังในวงการบันเทิง
ในขณะที่ทั้งแขกรับเชิญและพิธีกรได้ทำการวางแผนแกล้งไอดอลสาวพวกเขาก็ถูกซ้อนแผนแกล้งแบบไม่มีสคริปต์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์นั้นไม่มีการคัตแต่อย่างใด ให้เราได้รับชมการแกงกันแบบเต็มๆ โดยมีการเตรียมกันเอาไว้ก่อน แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่มันเป็นการแกล้งกันแบบที่ไม่มีอีกฝ่ายรู้ตัวมันจึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีก
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่องห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง
ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้องน่าจะเป็นภาพยนตร์ในจักรวาลสาระแนที่ดูเหมือนจะแทบไม่มีการกลั่นแกล้งการให้เราได้เห็นเลยแม้แต่น้อย ด้วยความที่แขกรับเชิญในครั้งนี้เป็นเด็กสาวไอดอลทำให้พวกเขาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนการกลั่นแกล้งกันให้มีความน่ารักสดใสมากกว่าการกลั่นแกล้งกันที่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้นหากใครคาดหวังว่าจะได้พบเจอกับการแกล้งกันแบบในอดีตที่เต็มไปด้วยความโหดมันส์ฮาก็อาจจะไม่เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับวง cgm48 เราขอบอกเลยว่าคุณจะได้รับความน่ารักของพวกเธอแบบเต็มอิ่มอย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้เราได้เห็นมุมมองอีกหลายด้านของพวกเธอในชีวิตการเป็นพวกเธอที่ไม่ได้เป็นไอดอลบนเวที เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวของตัวเองของไอดอลสาว Cgm48 ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวถึงอะไรสักอย่างแต่มันเป็นภาพยนตร์สารคดีเรียลลิตี้ที่มีความสั้นกึ่งระหว่างภาพยนตร์และแคนดิดคาเมร่า ซึ่งจะเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อแกล้งกัน ทำให้สำหรับคนที่อยากจะติดตามเรื่องราวความสนุกสนานก็อาจจะไม่ได้ความสนุกจากการเล่าเรื่องราว ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้จะมาจากการกลั่นแกล้งกันซึ่งมีการปรับเปลี่ยนให้มีความสดใส feel good มากยิ่งขึ้นให้เหมาะกับแขกรับเชิญ
โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สนุกและดูเพลินไม่น้อยเลยทีเดียว มีหลายฉากที่ทำให้ตลกได้โดยที่ไม่ต้องแกล้งกันแบบดิบเถื่อนรุนแรงเหมือนกับภาพยนตร์ล่าสุดอย่างสาระแนห้าวเป้ง ไม่เพียงเท่านั้นเรายังจะได้เห็นถึงมิตรภาพของกลุ่มไอดอลรวมไปถึงการซ้อมแผนแกล้งคืนของเหล่าไอดอลอีกด้วย แต่ก็มีบางช่วงเช่นเดียวกันที่ภาพยนตร์ค่อนข้างจะมีจุดเอื่อยจนทำให้เรารู้สึกเบื่อได้ ซึ่งเป็นข้อเสียของภาพยนตร์แนวสารคดีเรียลลิตี้ที่ไม่ได้มีการบอกเล่าเรื่องราวที่ต่อกัน