ชื่อเรื่อง | THE GIRL FROM OSLO |
เรตติ้ง | 6.0 |
นักแสดง | – |
จำนวนตอน | 10 ตอน |
รีวิวซีรีส์ THE GIRL FROM OSLO Netflix
รีวิวซีรีส์ THE GIRL FROM OSLO Netflix ซีรีส์แนวดราม่าที่เล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่ถูกกลุ่ม ISIS ลักพาตัวไป สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศแถบเอเชียตะวันออกนั้นเต็มไปด้วยความครุกรุ่นมาอย่างยาวนานตลอดเวลานับ 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศแถบนั้นมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายมากมายอย่างเช่นที่เราคุ้นหูกันดีอย่างชื่ออัลกออิดะห์ กลุ่มไอเอส และกลุ่มไอซิส แต่ละกลุ่มนั้นล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไปในการลุกขึ้นมาหยิบอาวุธก่อการร้าย ส่วนใหญ่แล้วพวกเขานั้นมักจะเป็นกลุ่มคนคลั่งศาสนาอิสลามและทำให้หลายคนนั้นรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเมื่อคนกลุ่มนี้ได้ก้าวขึ้นมามีอิทธิพลเหนือประเทศในแถบเอเชียตะวันออกมากยิ่งขึ้น อย่างล่าสุดกลุ่ม ISIS นั้นเป็นกลุ่มที่สามารถยึดครองประเทศอัฟกานิสถานได้สำเร็จและเขานั้นก็ได้ตั้งตนขึ้นมาเป็นรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังความพ่ายแพ้ของรัฐบาลที่แต่งตั้งและหนุนโดยกองกำลังของอเมริกา
เราน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวความโหดร้ายของกลุ่มผู้ก่อการร้ายเหล่านี้มาบ้างแล้วโดยเฉพาะความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายเหล่านี้เป็นผู้ก่อการร้ายที่คลั่งศาสนาอิสลามเป็นหลักทำให้สิทธิเสรีภาพของผู้หญิงท่ามกลางเหล่าผู้ก่อการร้ายนั้นจึงไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น พวกเขานั้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณและมักจะจับตัวประกันโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหรือนักข่าวชาวต่างชาติอยู่เสมอ วิธีการของพวกเขานั้นทั้งโหดร้ายและทารุณ ที่สำคัญพวกเขายังขึ้นชื่อในการฆ่าตัดคอแบบเป็นๆ อีกด้วย
สาเหตุที่เราต้องพูดถึงกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวนั้นก็เป็นเพราะว่าซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นซีรีส์ดราม่าที่เล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาวชาวนอร์เวย์คนหนึ่งที่ได้ตกเป็นตัวประกันของกลุ่มไอซิสนั่นก็คือ THE GIRL FROM OSLO หากคุณชื่นชอบการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และอยากจะลองศึกษาเกี่ยวกับชีวิตของกลุ่มตัวประกันของไอซิสเราขอแนะนำว่าคุณไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง THE GIRL FROM OSLO
THE GIRL FROM OSLO เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาวจากประเทศนอร์เวย์ที่มีชื่อว่าเพีย เธอนั้นได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศอิสราเอลเนื่องในโอกาสวันเกิดโดยที่ไม่ได้บอกพ่อแม่แต่อย่างใด แต่ความดื้อของเธอก็ทำให้เธอนั้นต้องพบเจอกับโชคชะตาที่โหดร้ายเพราะเธอนั้นถูกกลุ่มก่อการร้าย ISIS ลักพาตัวไปเพื่อเรียกค่าไถ่พร้อมกับเพื่อนชาวอิสราเอลหนุ่มของเธออีก 2 คน เป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อการร้ายคือการใช้เธอเป็นเครื่องมือในการต่อรองระหว่างประเทศเพื่อให้ประเทศศัตรูปล่อยตัวหัวหน้าผู้ก่อการร้ายและพรรคพวกของพวกเขาอีก 12 คนที่มีการคุมขังอยู่ในประเทศนอร์เวย์
แม่ของเด็กสาวที่มีชื่อว่าอเล็กซ์ได้เดินทางมายังประเทศอิสราเอลในทันทีพร้อมกับติดต่อสถานทูตและทำให้เธอนั้นได้พบกับเพื่อนเก่าที่มีชื่ออาริก เขานั้นเป็นชายที่ทำงานให้กับรัฐบาลเยรูซาเล็มและมีเส้นสายไม่น้อยเลยทีเดียว เธอได้ขอร้องให้เขาช่วยลูกสาวของเธอโดยเธอนั้นยินยอมที่จะแลกทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตาม ในขณะเดียวกันเองสามีของเธออย่างคาร์ลก็ได้รับการติดต่อโดยตรงมาจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายในเมืองออสโลเพื่อเจรจาต่อรองกันอย่างลับๆ
เรื่องราวนั้นซับซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากที่อเล็กซ์ได้ทำการบอกนักการทูตของอิสราเอลอาริกเพียที่ถูกลักพาตัวไปนั้นแท้จริงแล้วคือลูกสาวของเขาเองยิ่งทำให้เขานั้นต้องตกที่นั่งลำบากและเต็มไปด้วยความกดดันมากยิ่งขึ้นไปอีกในขณะเดียวกันเองเรื่องราวก็ยิ่งสลับซับซ้อนเมื่อซาลิมซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายและถูกจับตัวเอาไว้ก็พยายามที่จะหลบหนีออกมาจากที่คุมขังด้วยตัวเองอีกด้วย เหตุการณ์ในครั้งนี้จึงมีอะไรอยู่เบื้องหลังการเจรจาแลกเปลี่ยนปล่อยตัวนักโทษระหว่างประเทศอีกมากมาย เรื่องราวของเธอนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง THE GIRL FROM OSLO
THE GIRL FROM OSLO อาจจะเป็นซีรีส์ที่ทำให้เรานั้นสามารถเดาเรื่องราวได้ตั้งแต่ต้นจนจบเพราะความสนุกสนานของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่จุดจบของพวกเขาแต่อย่างใด แต่มันสนุกตรงที่การเล่าเรื่องราวระหว่างทางว่าพวกเขาจะมีวิธีการอย่างไรและเรื่องราวที่สันสลับซับซ้อนนั้นสุดท้ายแล้วจะคลี่คลายออกมาได้อย่างไรต่างหาก การนำเสนออย่างตรงไปตรงมานั้นช่วยให้เราสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นแต่สำหรับหลายคนก็อาจจะทำให้รู้สึกน่าเบื่อได้เช่นเดียวกัน
จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือการเป็นซีรีส์จากสัญชาตินอร์เวย์ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าไหร่และยังเป็นการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามจุดด้อยก็ยังมีเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร สามารถคาดเดาได้ง่าย มีจุดหักมุมบ้างแต่ก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นสักเท่าไหร่ ตัวละครแต่ละตัวนั้นดูธรรมดาไม่ได้มีเสน่ห์อะไรที่น่าจดจำหรือทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะเอาใจช่วยเท่าที่ควร การนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายนั้นได้เสนอในมุมมองที่ลึกหรือน่าสนใจ เหมือนกับพวกเขานั้นเป็นเพียงแค่ตัวร้ายที่โผล่ออกมาสร้างสีสันให้กับเรื่องเท่านั้น ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างมากถ้าหากซีรีส์มีการขยี้ตรงจุดนี้มากยิ่งขึ้นก็จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตัวอย่างซีรีส์ THE GIRL FROM OSLO
รีวิว ซีรีส์ THE GIRL FROM OSLO บางส่วนจาก playinone
โดยรวมแล้วซีรีส์จากนอร์เวย์เรื่องนี้ เป็นเพียงดราม่า ทริลเลอร์ ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย ที่เราเดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้มีความแตกต่าง หรือแปลกใหม่ เรื่องราวหลายๆ ช่วงก็ดูน้ำเน่า เป็นไปตามสูตรสำเร็จ ตื้นเขิน แม้จะพยายามทำให้ดูมีอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรอยู่ดี
The Girl From Oslo เด็กสาวจากออสโล ซีรีส์ Netflix จากประเทศนอร์เวย์ กับเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ถูกลักพาตัวโดยกลุ่มก่อการร้ายอย่างไอซิส เพื่อให้เป็นตัวต่อรองเจรจาปล่อยตัวนักโทษคนสำคัญที่ถูกจับอยู๋ในนอร์เวย์ แต่มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่มาจากกลุ่มก่อการร้ายมากกว่านั้น
เพีย เด็กสาวชาวนอร์เวยที่จู่ๆ ก็บินมาเที่ยวที่อิสราเอลในวันเกิดของเธอโดยไม่บอกพ่อแม่ แต่แล้วก็ต้องถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มก่อการร้ายอย่างไอซิส พร้อมกับเพื่อนชาวอิสราเอลอีกสองคน เป้าหมายก็คือการใช้เธอ เป็นเครื่องมือต่อรองระหว่างประเทศ ให้ปล่อยตัวหัวหน้าผู้ก่อการร้ายพร้อมพรรคพวกอีก 12 คน ที่ถูกขังอยู่ในนอร์เวย์
อเล็กซ์ คุณแม่ของเพีย ได้เดินทางมายังอิสราเอลและติดต่อสถานทูต ได้พบกับเพื่อนเก่านามว่า อาริก ที่มีเส้นสายและทำงานให้กับรัฐบาลของเยรูซาเล็ม เธอจึงขอให้ช่วยเหลือลูกสาวของเธอให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง คาร์ล สามีของอเล็กซ์ ก็ได้รับการติดต่อโดยตรงจากกลุ่ม ISIS ที่อยู่ในเมืองออสโล เพื่อทำการเจรจาต่อรองลับหลัง
เรื่องราวมันยิ่งซับซ้อนขึ้น เมื่ออเล็กซ์ บอกกับอาริกนักการทูตของอิสราเอลว่า แท้จริงแล้วเพีย คนที่ถูกลักพาตัวไป คือลูกสาวของเขา นั่นทำให้อาริกต้องตกที่นั่งลำบากและกดดันมากยิ่งขึ้น และในอีกด้านหนึ่ง อาบู ซาลิม ผู้ก่อการร้ายที่ถูกจับตัว ก็พยายามหลบหนีออกจากที่คุมขังเองด้วย กลายเป็นว่ามีเรื่องราวเบื้องหลังที่อยู่นอกเหนือแค่การเจรจาแลกเปลี่ยน ปล่อยตัวนักโทษระหว่างประเทศ
พล็อตเรื่องที่เหลือไปจนถึงตอนจบน่าจะเดาได้ไม่ยากเท่าไหร่ ก็จะมีการจบแบบฝ่ายดี ฝ่ายร้าย แบ่งแยกชัดเจน และแม้จะมีพล็อตเรื่องรองและความน่าตื่นเต้นอื่นๆ เข้ามาสอดแทรก แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือกลายเป็นอีกเส้นเรื่องหนึ่ง มันเลยทำให้ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอได้ค่อนข้างตรงไปตรงมา ตรงไปจนมันกลายเป็นดูทื่อๆ
เรื่องราวดราม่า ทริลเลอร์ เกี่ยวกับการลักพาตัว ผู้ก่อการร้าย ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรเลย เนื้อหาก็จะเป็นความกดดันในระหว่างเจรจา เหตุการร์ที่เกิดขึ้น ดูว่าแต่ละตัวละครแก้ไขปัญหาอย่างไร ผลลัพท์ที่ตามมามันก็ยิ่งยุ่งเหยิง ถ้าหากว่าใครเคยดูซีรีส์ทริลเลอร์แอคชั่นมันส์ๆ จากฝั่งอเมริกาอย่าง 24 หรือ Homeland ก็จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามันมีความกดดันในแต่ละฉากเยอะมาก สนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก และมีจุดพีค จุดหักมุม เพื่อให้เรื่องราวดำเนินไปต่อ
แต่พอย้อนมองกลับมาในเนื้อหาหลักของซีรีส์เรื่องนี้จากนอร์เวย์ ถือว่าสอบตกในแทบจะทุกด้าน ทั้งๆ ที่เนื้อหาแบบเดียวกัน แต่การเล่าเรื่องและการนำเสนอมันส่งผลกับความสนุกของเรื่อง การพูดคุย วางแผน เจรจา ทุกอย่างในซีรีส์เรื่องนี้มันไม่ได้ดูสดใหม่ ไม่ได้แตกต่าง เราเห็นอะไรแบบนี้มาเป็นร้อยเป็นพันครั้งจากสื่ออื่นๆ มันยิ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าเบื่อกว่าเดิม แม้จะถึงช่วงตื่นเต้นของเรื่องก็ตาม
ในการเป็นซีรีส์ทริลเลอร์ ความตื่นเต้นกดดันนั้นสำคัญ และการเฉลยเรื่องราวที่ค่อยๆ เผยออกมาทีละเปลาะ ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวมีความน่าติดตาม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในซีรีส์เรื่องนี้ถูกวางเอาไว้ทื่อๆ ดื้อๆ บอกตรงๆ บ้างก็มี เรียกง่ายๆ ก็คือมีคำใบ้ฉากต่อไป อยู่ในทุกฉากก่อนหน้า ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยิ่งทำให้เนื้อเรื่องเดาง่ายกันไปใหญ่ เราสามารถดูซีรีส์เรื่องนี้ 2 ตอนแรก แล้วข้ามไปดูตอนสุดท้ายก็ยังสามารถรู้เรื่องราวทั้งหมดได้ไม่ยาก แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้มี 10 ตอน ตอนละ ราวๆ 35 นาที เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าการดำเนินเรื่องมันไวเลย
แม้จะมีการหยิบยกเรื่องราวของกลุ่มก่อการร้าย ปาเลสไตน์ ไอซิส อิสราเอล อะไรพวกนี้ ตัวเรื่องก็ไม่ได้นำเสนอแง่มุมที่ลึก หรือที่น่าสนใจอะไร เป็นเรื่องราวทั่วๆ ไปที่เห็นกันดาดดื่น ถ้าหากว่าให้ลองไปเทียบกับซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวของคนกลุ่มพวกนี้อย่าง ฟาวด้า หรือ เตหะราน ที่สามารถทำได้เข้าถึงมากกว่า ไม่ได้นำเสนอในแค่แง่มุมของการก่อการร้าย การเป็นเพียงแค่ผู้ร้าย เด็กหญิงจากออสโลไม่สามารถเทียบติดได้เลย
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้น่าติดตามก็คงเป็นตัวละครหลัก อย่างคุณแม่ของน้องเพียที่โดนลักพาตัว คุณแม่ชื่ออเล็กซ์ ก็เป็นเพียงแค่คุณป้าที่อยากได้ลูกสาวคืนคนหนึ่ง ทำงานเป็นนักการทูต แค่นี้เลย แค่ตัวละครหลักยังไม่น่าสนใจ ที่พอดูดีหน่อยก็มีอาริก นักการทูตอิสราเอลที่มีเส้นสายการทำงาน คอนเนคชั่นนั่นนู่นนี่ พยายามสืบหาและช่วยเพีย ที่เป็นลูกสาวของเขาจริงๆ ตรงนี้ก็ยังพอมีอะไรให้ได้รู้สึกว่าตรงนี้ก็ทำได้ดีนิดหนึ่ง แม้ว่าจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ตอนท้ายก็มีทิ้งเชื้อไว้ว่าจะมีซีซั่นสองต่อไปด้วย
playinone