| ชื่อเรื่อง | THE DROPOUT |
| เรตติ้ง | 7.5 |
| นักแสดง | Amanda Seyfried,Naveen Andrews |
| จำนวนตอน | 8 ตอน |
รีวิวซีรีส์ THE DROPOUT
รีวิวซีรีส์ THE DROPOUT ซีรีส์ที่สร้างมาจากรื่องจริงของสตาร์ทอัพลวงโลก ในแวดวงสุขภาพ การที่เราจะรู้ได้ว่ามนุษย์คนหนึ่งมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่หรือกำลังเผชิญหน้าอยู่กับโรคอะไรเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก การวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วเป็นสิ่งที่จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินการรักาาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดให้กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี แต่ในโลกแห่งความเป้นจริงมันไม่มีอะไรง่ายเลยแม้แต่น้อย การจะตรวจพบว่านุษย์คนหนึ่งมีอาการผิดปกติหรือกำลังป่วยเป็นโรคอะไร หนึ่งในสิ่งที่ต้องทำคือการตรวจเลือด แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ชอบมัน คนที่กลัวเข็มตั้งแต่เด็กจนโตมีอยู่ทั่วโลกเต็มไปหมด ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์สาวอย่างเอลิซาเบธ โฮล์มจึงได้คินค้นชุดตรวจเลือดที่ตอบโจทย์ทั้งคนไข้และหมอออกมา มันทำให้เธอกลายเป้นนักธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร้จตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกเปิดโปงความจริง
เรื่องราวของเธอนั้นได้รับความสนใจไปทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะหลังจากที่มีการออกมาประกาศว่าเธอมีความผิดจริงและกำลังจะได้รับโทษทางกฎหมาย มันเป็นคดีดังที่มีคนมีชื่อเสียมากมายมีส่วนเกี่ยวข้อง ยิ่งไปกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นให้กับคนทั่วไปมากขึ้นไปอีก หากคุณอยากรู้เรื่องราวและทำความรู้จักเธอให้มาขึ้น เราขอแนะนำซีรีส์เรื่อง THE DROPOUT ซีรีส์ที่จะออกมาเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับคดีลวงโลกสุดอื้อฉาวให้ทุกคนได้รับรู้โดยทั่วกัน
ซีรีส์เรื่องนี้มีความยาวทั้งสิ้น 8 ตอน นำเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงมาตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้โดยทั่วกันเกี่ยวกับนักธุรกิจสาวเจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพมูลค่ามหาสารที่เป็นเพียงแค่ฉากหน้าการต้มตุ๋นระดับโลกที่กลายมาเป็นคดีใหญ่ระดับประวัติศาสตร์เท่านั้น โดยจะพาเราไปรับรู้เรื่องราวแบบตั้งแต่ต้นจนจบแบบเข้าใจง่ายๆ ไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยก็รับชมได้อย่างสนุกสนานแน่นอน
ซีรี่ย์ Disney + Hotstar
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง THE DROPOUT
THE DROPOUT เป้นซีรีส์ที่จะตีแผ่เรื่องราวคดีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับบริษัทสตาร์ทอัพที่ดำเนินมาอย่างยาวนานร่วม 10 ปี เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สตาร์ทอัพเริ่มกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างช่วงยุด 2000 ที่ผ่านมา แต่คดีดังกล่าวกลับเพิ่งถูกฟ้องเป็นคดีความเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาเท่านั้น จนถึงตอนนี้มันยังคงลากยาวและดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ แต่อย่างใด
เรื่องราวจะพาเราไปทำความรู้จักกับหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของบริษัทอย่างเอลิซเบธ โฮล์มที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นนักธุรกิจสตาร์ทอัพหญิงอายุน้อยที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เธอได้ก่อตั้งบริษัทเธราโนสที่มีการออกมาระดมทุนเพื่อพัฒนานวัตกรรมชุดตรวจเลือดที่ใช้เลือดเพียงแค่น้อยนิดแต่ก็สามารถบอกได้ว่าคนผู้กำลังป่วยเป็นโรคอะไร มันกลายเป้นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก หากประสบความสำเร็มันจะพลิกประวัติศาสตร์การรักษาทั่วทั้งโลก และยังตอบโจทย์คนกลัวเข็มอีกด้วย ช่วยให้แพทย์สามารถทำงานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
มันจึงไม่น่าแปลกใจที่มีคนดังและนักธุรกิจมากมายที่ต้องการจะเป้นส่วนหนึ่งความความสำเร็จในหน้าประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ทำให้เธอสามารถระดมทุนไปได้สูงถึง 9 พันล้านเหรียญดอลลาร์เลยทีเดียว แต่ในเวลาต่อมาทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยว่ามันเป็นแค่เรื่องลวงโลกเท่านั้น
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง THE DROPOUT
THE DROPOUT เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเอลิซาเบธ โฮล์มโดยปูเื่องราวมาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กมาจนถึงในปัจจุบันมากกว่าการเล่าเรื่องราวแนวสารคดีแบที่ HBO เคยทำมากก่อน เราจะได้รู้ว่าเธอมีปมอะไร ทำไมจึงสนใจเกี่ยวกับการตรวจเลือดนักหนา ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้มาจากปากของเจ้าตัวเอง แต่นำเอาหนังสือจากผู้สื่อข่าวในเดอะวอลล์สตรีทมาเล่า มันจึงมีการแต่งเสริมเรื่องราวให้ดูมีความสนุกสนานไม่น่าเบื่อ เพราะเอลิซาเบธไม่เคยให้ความร่วมมือในการเปิดเผยเรื่องราวของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
เรื่องราวส่วนใหญ่ที่เล่าจะพูดถึงการทำธุรกิจที่ถูกตีแผ่ออกมาอย่างละเอียดให้เราสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะช่วงการะดมทุนที่ตอบคำถามว่าเธอใช้วิธีอะไร ทำไมคนดังหรือนักธุรกิจจึงเชื่อในตัวเธอแบบไม่มีสงสัย ในช่วงแรกมันจะเต็มไปด้วยความสุนกในการหลอกลวงผู้คนแล้วดูว่าเธอจะเอาตัวรอดได้ยังไง ก่อนที่ในช่วงหลังบรรยากาศจะเปลี่ยนไปเพราะเธอต้องจมอยู่กับความคิดว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถผลิตชุดตรวจเลือดออกมาได้จริง ทางเข้าจีคลับ
มีการสอดแทรกเรื่องราวส่วนตัวของเธอเข้ามาด้วยนั่นก็คือ CEO บริษัทชาวปากีสถาน หนุ่มใหญ่ที่ดูเหมือนต้องการจะสานความสัมพํนธ์รักใคร่กับเธอ แต่ด้วยความที่เล่าเสียละเอียดยิบย่อยทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเป็นการแต่งเพิ่มมาอย่างแน่นอน เพราะในความจริงเธอปิดบังเรื่องเหล่านี้ไว้เป็นอย่างดีเพราะไม่อยากให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัท
และยังเล่าไปถึงชายแก่เพื่อนบ้านที่เป้นศัตรูคนแรกของเธอ และตามจองล้างจองผลาญจะเปิดโปงเธอมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนี้เป้นเรื่องจริงที่มีการอ้างอิงผู้เกี่ยวข้องแบบครบถ้วน มีการใช้นักกฎหมายเข้ามาบีบจนทำให้บางคนหมดหนทาง บางคนถึงขั้นยอมฆ่าตัวตายอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่น่าลุ้นมาที่สุดว่าคนธรรมดาจะสู้จะบริษัทยักษ์ใหญ่ได้อย่างไร