ชื่อเรื่องDMZ
เรตติ้ง5.5
นักแสดงRosario Dawson,Benjamin Bratt
จำนวนตอน4 ตอน

รีวิวซีรีส์ DMZ

รีวิวซีรีส์ DMZ ซีรีส์แนวโลกหลังสูญสิ้นอารยะจากสงครามกลางเมืองอเมริกา เรื่องราวโลกดิสโทเปียหรือโลกหลังสูญสิ้นอารยธรรมเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์ทั้งหลาย หรือแม้แต่ผู้รับชมอย่างเราเองก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะว่าโลกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปค่อนข้างอิสระเสรีในการใส่อะไรเข้ามา เราจะเสริมเติมแต่งเรื่องราวเล่าเรื่องอย่างไรก็ได้ตามความต้องการ ภาพยนตร์แนวนี้เราจึงมักจะได้เห็นไอเดียแปลกใหม่จากบรรดาผู้กำกับหรือผู้เขียนบทที่ต้องการจะนำเสนอความแตกต่างให้พวกเราได้เห็นในวงการบันเทิง 

อย่างที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ก็เป็นซีรีส์แนวโลกหลังสูญสิ้นระยะจากการเกิดเหตุสงครามกลางเมืองในอเมริกาเช่นเดียวกันนั่นก็คือ DMZ มันเป็นมินิซีรีส์ที่มีจำนวนเพียงแค่ 4 ตอนเท่านั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่อยากรับชมซีรีส์แต่ไม่มีเวลาเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่สนใจก็สามารถรับชมได้บน HBO 

อีกหนึ่งความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือมันดัดแปลงมาจากการ์ตูน COMIC ของ DC โดยเล่าเรื่องราวการต่อสู้ดราม่าบนโลกหลังสูญสิ้นในระยะหลังเกิดเหตุการณ์สงครามทางการเมืองในอเมริกา มันไม่ได้เป็นการต่อสู้แบบโจมตียิงกันตู้มต้ามแต่จะเป็นแนวมาเฟีย การแบ่งเขตปกครอง และการต่อยตีกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรหรือเพื่อการอยู่รอดมากกว่า 

แต่เราขอเตือนเอาไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่าใครที่คาดว่าจะได้เห็นฉากการต่อสู้แบบอลังการยิ่งใหญ่เหมือนในภาพยนตร์ฮีโร่ DC ก็อาจจะรู้สึกผิดหวังเพราะในความเป็นจริงแล้วซีรีส์เรื่องนี้จะเน้นเล่าเรื่องราวดราม่ามากกว่า จะบอกว่ามันเป็นซีรีส์ดราม่าแบบเต็มตัวก็ว่าได้เพียงแต่มีการสอดแทรกฉากการต่อสู้เข้ามาเล็กน้อย ที่สำคัญมันเป็นซีรีส์ต้นทุนค่อนข้างต่ำ ดังนั้นเรื่องราวจึงอาจจะวนเวียนอยู่กับฉากซ้ำไปซ้ำมาไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่แต่อย่างใด 

ซีรีส์ HBO

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง DMZ

DMZ เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่ออัลม่า เธอนั้นต้องการเดินทางเพื่อตามหาลูกชายที่หายสาบสูญไปตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นเด็กในเมืองแมนฮัตตัน เมืองที่ในปัจจุบันเรียกว่าเขตปลอดทหารซึ่งเป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นกับอเมริกาและฝ่ายกองกำลังอิสระที่มีการทำสงครามกลางเมืองกับสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานั้น ดังนั้นแมนฮัตตันจึงกลายเป็นเมืองที่มีกลุ่มคนยึดครองและปกครองกันเองโดยที่ไม่ขึ้นกับใครทั้งนั้น เมืองแห่งนี้จึงเป็นเมืองที่อันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว เต็มไปด้วยมาเฟียมากมาย การกระทำความผิดดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สิ่งที่หาได้ยากเย็นอะไรในพื้นที่แห่งนี้ เพราะทุกคนก็ล้วนแล้วแต่ต้องการจะดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเองทั้งนั้น 

แต่เหตุการณ์กลับเลวร้ายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปอีกเมื่อสงครามกลางเมืองครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแถมยังเป็นสงครามใหญ่ที่ดูเหมือนว่าจะเลวร้ายมากกว่าเดิมเสียอีกเนื่องจากชนวนเหตุของสงครามมาจากการเลือกตั้งผู้ว่าในดินแดนแห่งนี้เป็นครั้งแรก ดินแดนที่ปกครองกันเองไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลอาจจะเต็มไปด้วยอิสระแต่ไม่มีใครรับรองความปลอดภัยของคนในเมืองได้ การเดินทางตามหาลูกชายในเมืองแมนฮัตตันในครั้งนี้จึงเป็นการเสี่ยงอันตรายของผู้เป็นแม่ไม่น้อยเลยทีเดียว สุดท้ายเธอจะสามารถตามหาลูกเจอหรือไม่ต้องติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์ 

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง DMZ

DMZ เป็นซีรีส์ที่จั่วหัวว่าเป็นแนวต่อสู้ดราม่าบนโลกหลังสูญสิ้นอารยธรรม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนเข้าใจผิดเพราะในความจริงแล้วเรื่องราวกว่า 90 เปอร์เซ็นเป็นการเล่าถึงเรื่องราวดราม่าของแม่ที่ตามหาลูกมากกว่าจะเล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้ในสงครามกลางเมืองในเมืองแมนฮัตตันที่ตอนนี้กลายเป็นเขตปกครองพิเศษที่เต็มไปด้วยอันตราย แถมตัวละครหลักอย่างคนเป็นแม่ก็ยังเป็นคนธรรมดาทั่วไปดังนั้นคุณจึงแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นการยิงกันหรือการสู้รบที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่อลังการจากซีรีส์เรื่องนี้

ฉากการต่อสู้ส่วนใหญ่จะเป็นฉากการต่อยตีแนวมาเฟียซะมากกว่า แม้ว่ามันอาจจะทำให้คุณรู้สึกเสียดายไปบ้างที่ไม่ได้รับชมฉากการต่อสู้ แต่ต้นฉบับ COMIC เองก็เป็นการเล่าเรื่องราวแนวนี้เช่นเดียวกันคือเน้นดราม่าแม่ตามหาลูกมากกว่าฉากการต่อสู้ ซึ่งแทนที่การเล่าเรื่องราวเน้นไปที่ดราม่าจะทำออกมาได้ดีก็ทำออกมาได้แบบมาตรฐานไม่มีอะไรให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจหรือสร้างความประทับใจได้เลยแม้แต่น้อย แถมตัวละครลูกก็ยังลงเอยเหมือนกับเรื่องราวแนวแม่ตามหาลูกที่ผ่านมานั้นก็คือกลายเป็นนักฆ่าในเมือง คนเป็นแม่เลยพยายามหาทางให้ลูกกลับใจ แต่ดูเหมือนว่าลูกชายจะกลับมาเป็นเด็กชายจุดเรียบร้อยเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป 

แต่อย่างไรก็ตามในส่วนเส้นเรื่องหลักที่อัลม่าซึ่งไม่ใช่คนในแมนฮัตตันแต่เข้ามาทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในขณะที่แต่ละฝ่ายในเมืองพยายามสร้างเขตปกครองของตัวเองขึ้นมาและร่ำๆ ว่าจะมีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น เธอดันไปมีความเกี่ยวข้องกับหัวโจกฝั่งหนึ่งทำให้เธอต้องไปพัวพันกับการเลือกตั้งและการเกิดสงครามในครั้งนี้ด้วย ก็ถือว่าสามารถทำออกมาได้น่าสนใจเพราะมีการสอดแทรกประเด็นทางการเมือง เสรีภาพ และประชาธิปไตยออกมาได้ค่อนข้างดี พนันบอล

ตัวอย่างซีรีส์ DMZ

รีวิว ซีรีส์ DMZ บางส่วนจาก playinone

ซีรีส์โลกดิสโทเปียที่เนื้อเรื่องเนือยๆ เรื่อยๆ เน้นบทสนทนากับดราม่ายาวๆ มีฉากแอ็กชั่นนิดเดียว โดยรวมไม่ดีพอให้ดู ข้ามไปได้เลย DMZ มินิซีรีส์ 4 ตอนจบของ HBO สร้างจากคอมิคของ DC แนวดราม่าแอ็กชั่นบนโลกดิสโทเปียของอเมริกาหลังสงครามกลางเมือง แมนฮัตตันกลายเป็นเขตปลอดทหาร มีกลุ่มคนยึดครองตั้งเป็นเขตปกครองกันเองโดยไม่ได้ขึ้นกับฝ่ายไหน และกำลับงมีสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้นจากากรเลือกตั้งผู้ว่าครั้งแรก

ซีรีส์หนังสือการ์ตูน DC ที่มีชื่อเดียวกันของ Brian Wood และ Riccardo Burchielli ซึ่งทางวอร์เนอร์ที่เป็นบริษัทแม่ของ DC ก็นำมาสร้างเป็นมินิซีรีส์ 4 ตอนจบ โดยเป็นเรื่องราวของอัลม่า แม่ผู้ต้องเข้าไปตามหาลูกชายที่หายตัวไปตั้งแต่ยังเด็กในแมนฮัตตันที่ปัจจุบันถูกเรียกว่า DMZ หรือเขตปลอดทหาร ที่เกิดจากข้อตกลงของอเมริกากับฝ่าย FSA (Free States army) กองกำลังรัฐอิสระที่กำลังทำสงครามกับอเมริกาอยู่ในขณะนั้น

หน้าหนังชวนให้คิดว่านี่เป็นแนวแอ็กชั่นลุยๆ ยิงกัน แต่ตัวเรื่องจริงกลับกลายเป็นแนวดราม่าซะส่วนใหญ่ 90% ฉากแอ็กชั่นเป็นส่วนน้อยนิดของเรื่องมากๆ เรียกว่าใครที่คาดหวังตรงนี้ไว้ข้ามไปได้เลย และฉากแอ็กชั่นในเรื่องก็ไม่ใช่แนวยิงกัน แต่เป็นแนวต่อยตีกันซะมากกว่า เพราะตัวเรื่องถูกเซ็ตว่าเขตปกครองนี้กลายเป็นแหล่งของพวกกลุ่มแก๊งมาเฟียที่ก่อตั้งกันขึ้นมาเองเพื่อปกครองเมืองนี้ ซึ่งส่วนแอ็กชั่นที่มันน้อยแบบนี้เพราะตัวต้นฉบับการ์ตูนก็เป็นแบบนั้นด้วย และอีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ซีรีส์ทุนสูงอะไร เรียกว่าออกจะต่ำด้วย เพราะตัวเรื่องทั้งหมดแทบจะวนเวียนอยู่กับฉากซ้ำๆ ในที่เดิมอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนดราม่าของเรื่องที่แม่ออกตามหาลูกก็ทำออกมาได้พื้นๆ ไม่ชวนให้อินอะไรเลย เพราะตัวลูกในเรื่องได้กลายเป็นนักฆ่าประจำเมือง บทก็เลยพยายามให้อัลม่าพยายามหาทางทำให้เขากลับใจ ซึ่งดูยังไงก็ไม่อินว่าหน้าตาท่าทางลูกนางที่กลายไปเป็นแบบนั้นแล้วจะกลับมาเป็นเด็กหงิมๆ อย่างที่นักแสดงวัยรุ่นรับบทไว้ตอนเปิดเรื่อง คือนักแสดงแคสออกมาแบบต่างกันลิบโลกเกินไปหน่อย แม้เรื่องจะวางให้เป็นแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกคล้อยตามได้เลยว่าตัวนางเอกจะพยายามกล่อมลูกอะไรขนาดนั้น ทั้งๆ ที่เจ้าตัวลูกเองแทบฆ่านางทิ้งซะด้วยซ้ำ

แต่เส้นเรื่องหลักของเรื่องก็คือการที่นางเอกเป็นคนนอกแล้วเข้ามาทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเมือง ที่แต่ละฝ่ายพยายามสร้างเขตปกครองส่วนตัวขึ้นมา โดยมีกำหนดการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งแรก ซึ่งแต่ละฝ่ายก็จะพยายามหาหัวคะแนนมาหนุนตัวเอง ซึ่งตัวนางเอกบังเอิญมีความสัมพันธ์พิเศษกับหัวโจกในปัจจุบัน ทำให้เธอต้องเข้าไปเกี่ยวพันและพยายามทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นทางออกใหม่ของเมืองนี้ที่ไม่ต้องมาอยู่ใต้การปกครองของใครทั้งสิ้น ตัวเรื่องสอดแทรกการเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ เข้าไปในโลกสมมุติไร้กฎหมายของเมืองนี้ได้ดี ทำได้น่าสนใจ เหมือนหนังแก๊งสเตอร์ในโลกดิสโทเปีย โดยมีเรื่องราวของกองทัพอเมริกากับ FSA หนุนเป็นเกมการเมืองเบื้องหลังอีกชั้น

แต่บทก็เหมือนให้นางเอกอยู่ๆ ก็มีดี พูดดีวาทะศิลป์ดี จนพวกหัวโจกเหล่านี้หันมาฟังเธอเชื่อเธอไวเว่อร์เกินไป จนทำให้เรื่องดูเหมือนเล่นง่ายๆ นางเอกเข้ามาไม่กี่วันกลายเป็นคนสำคัญสุดของเมืองไปทันที ซึ่งไม่สมเหตุผลเอามากๆ

จุดดีที่สุดของเรื่องก็คือตอนจบ ตัวเรื่องหาทางลงให้ทุกฝ่ายได้ดี คือระหว่างดูมาอาจจะไม่สนุกหรืออินไปเรื่องราวนัก แต่บทสรุปสุดท้ายของเรื่องกับทุกตัวละครทำได้ลงตัวดี สมเหตุผล เป็นดราม่าซึ้งๆ ตบท้ายเรื่องที่ทำให้ซีรีส์เรื่องดูโอเคขึ้นมา สรุป DMZ สนุกและดีไหม การดำเนินเรื่องไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ออกแนวเนือยๆ เรื่อยๆ เน้นบทสนทนากับดราม่ายาวๆ มีฉากแอ็กชั่นนิดเดียว โดยรวมไม่ดีพอให้ดู ข้ามไปได้เลย

playinone

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *